เชื่อว่าหลายท่านมีความฝันว่าอยากจะไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่ละบุคคลอาจมีประเทศที่อยากทำงานแตกต่างกัน โดยประเทศเกาหลี เป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายคน แต่กว่าจะเข้าทำงานได้ ต้องมีการตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองก่อนว่าร่างกายของท่าน พร้อมที่จะเข้าทำงานหรือไม่ วันนี้เรามาดูกันว่าการตรวจสุขภาพก่อนไปทำงานที่เกาหลี ต้องมีการเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง มาดูรายละเอียดกัน
โรคต้องห้ามในการเข้าทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลี ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) มีดังต่อไปนี้
ร่างกายผิดปกติ เช่น โรคปวดหลังจากหมอนรองกระดูกทับเส้น, กระดูกแขนขาโก่งหรือคดงอ เป็นต้น
หูตึง หูหนวก
โรคไวรัสตับอักเสบบี เมื่อแพทย์ตรวจพบเชื้อ จะไม่ได้ถูกห้ามว่าไม่ควรไปทำงาน แต่จะแนะนำทั้งฝั่งผู้เข้ารับบริการและนายจ้างให้พิจารณาว่าสามารถทำงานเหล่านั้นได้หรือไม่
โรคซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เมื่อมีการตรวจพบเชื้อ และผู้ป่วยยังไม่ได้รับการรักษา จะไม่สามารถไปทำงานได้ ต้องได้รับการรักษาและให้ยาฆ่าเชื้อจนครบ
วัณโรคปอด คือการติดเชื้อในปอดชนิดหนึ่ง ถ้าหากพบเชื้อจำเป็นต้องได้รับยาฆ่าเชื้ออย่างน้อย 6 เดือน หรือ 180 วัน โดยหากได้รับการรักษาจนครบแล้ว ต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าได้รับการรักษาครบ มาด้วยทุกครั้งเมื่อทำการตรวจสุขภาพเพื่อไปทำงานต่างประเทศ
ไส้เลื่อน สามารถเข้าปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อผ่าตัดและรักษาให้หายได้
นิ่วในไต มักมีอาการปัสสาวะผิดปกติ หรืออาจไม่มีอาการ ผู้เข้ารับบริการต้องเผื่อเวลา เพื่อเข้ารับการตรวจและรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง
โรคที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน เช่น โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, โรคไต เป็นต้น
ตาบอดสี, สายตาสั้น โดยผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้นจะต้องไม่เกิน 400 หรืออาจพิจารณาเป็นรายบุคคลไป ส่วนผู้ที่เป็นตาบอดสีต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมจากจักษุแพทย์อย่างละเอียดว่าตาบอดสีใด มีงานลักษณะใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง
โรคทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลันชนิดรุนแรง หากเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ควรได้รับการรักษาให้อาการดีขึ้นก่อน จึงค่อยมาตรวจสุขภาพ
โรคจิตเภท, จิตวิปริต
โดยผู้ที่เดินทางเพื่อไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลีตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) จำเป็นจะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ร่างกายสมบูรณ์ และไม่ป่วยเป็นโรคที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน หรือโรคติดต่อตามที่ประเทศเกาหลีกำหนด นอกจากรายการข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว แพทย์อาจพิจารณารายการตรวจเพิ่มเติมในกรณีที่ผู้เข้ารับบริการอาจเกิดอันตรายระหว่างการทำงาน เช่น การตั้งครรภ์ เป็นต้น
1.บัตรประชาชนตัวจริง หรือสำเนา
2.Passport ตัวจริง หรือสำเนา
3.รูปถ่าย 4 ใบ ขนาด 1.5 นิ้วหรือ 2 นิ้ว โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
ต้องเป็นพื้นหลังสีขาว (พื้นหลังสีอื่นจะไม่ได้รับการยอมรับการตรวจคนเข้าเมือง)
ต้องเห็นครบทั้งศีรษะ
ไม่มีตัวอักษร, ไม่มีขอบ
ไม่มีรอยเปื้อนหรือสิ่งสกปรก
ห้ามมีข้อความด้านล่างของรูปภาพ
ห้ามใส่เสื้อสีขาว เพราะภาพถ่ายอาจกลมกลืนไปกับสีพื้นหลัง
4.หากไม่ได้ถ่ายสำเนามา ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องมีบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตตัวจริงมา ทางโรงพยาบาลเพชรเวชมีบริการถ่ายเอกสารที่ชั้น 1
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมติดต่อได้ที่เบอร์ 1390 ต่อ 226 หรือ 227
วันก่อนหน้าที่จะเข้ารับการตรวจสุขภาพ ควรนอนหลับอย่างน้อย 8 - 10 ชั่วโมงขึ้นไป หากนอนหลับไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อการตรวจวัดความดันโลหิตได้
งดอาหาร 8 - 10 ชั่วโมง โดยผู้เข้ารับบริการสามารถดื่มหรือจิบน้ำเปล่าเรื่อย ๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องอดน้ำเปล่า แต่อาหารชนิดอื่นที่ไม่ใช่น้ำเปล่า ไม่ควรดื่มหรือรับประทานโดยเด็ดขาด เพราะอาจรบกวนผลการตรวจได้
งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ความดันโลหิตสูงได้
งดดื่มสุรา, แอลกอฮอล์, เบียร์ และไวน์ หากให้ดีควรงด 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการตรวจ
งดดื่มชา, กาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลังที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน อย่างน้อย 12 - 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจ
งดยาสมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจร, ยาสมุนไพรจีน หรืออาหารเสริม ก่อนเข้ารับการตรวจ 2 สัปดาห์
สวมใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ เพื่อเข้ารับการเจาะเลือด
หากสตรีเข้ารับการตรวจ ควรตรวจเมื่อไม่เป็นประจำเดือน, หายจากประจำเดือน หรือไม่มีเลือดออกแบบกะปริบกะปรอยแล้ว หากยังมีเลือดออกแม้เป็นเพียงคราบ ควรเลื่อนนัดไปตรวจวันอื่น เพราะอาจรบกวนผลการตรวจปัสสาวะได้
หากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้นำใบรับรองแพทย์หรือประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลเดิมติดตัวมาด้วย เพื่อให้แพทย์พิจารณาร่วมกับผลตรวจเลือดปัจจุบัน หากพบเชื้อต้องได้รับยาฆ่าเชื้อจนครบ และมีหลักฐานการให้ยาด้วย
หากมีประวัติเคยเป็นวัณโรคปอด อาจมีรอยแผลเป็นภายในปอด ทำให้การเอกซเรย์ปอดผิดปกติ จึงแนะนำให้มีการนำประวัติการรักษาหรือใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลเดิมมา เพื่อประกอบการพิจารณาการตรวจ
กล่าวโดยสรุป หากผู้ที่จะเข้ารับการตรวจมีโรคประจำตัว ควรนำใบรับรองแพทย์มา เพื่อยืนยันว่าได้รับการรักษาจนครบและเป็นปกติแล้ว
อ้างอิงจากข้อมูลของกรมการจัดหางาน โดยขอแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้รับการประสานจากสำนักบริการพัฒนาบุคลากรแห่งเกาหลี ศูนย์ EPS ประจำประเทศไทย ผู้ที่ตรวจพบไวรัสตับอักเสบบีในช่วงการอบรมเตรียมความพร้อมก่อนไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลี จะไม่ถูกดำเนินการส่งกลับประเทศ โดยจะมีการให้คำแนะนำแก่นายจ้างและลูกจ้างในการเข้ารับการรักษาตัว เพื่อไม่ให้เกิดโรคติดต่อสู่ผู้อื่นระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น หากตรวจพบไวรัสตับอักเสบบีในระหว่างการตรวจสุขภาพ จึงยังสามารถเดินทางไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลีได้
การเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนไปทำงาน เป็นขั้นตอนที่มีความละเอียดและจำเป็นอย่างมาก เพื่อเช็คสภาพร่างกายของผู้เดินทางว่าแข็งแรง สมบูรณ์ และมีโรคติดต่อสู่ผู้อื่นหรือไม่ หากท่านใดที่อยากตรวจสุขภาพเพื่อไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลี ทางโรงพยาบาลเพชรเวชของเรามีบริการตรวจสุขภาพก่อนไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลีด้วยเช่นกัน โดยทุกท่านสามารถติดต่อเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์ตรวจสุขภาพ ชั้น 2 อาคาร A ทุกวันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 08.00 - 11.00 น. / 13.00 - 14.00 น.
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง