ต้อเนื้อ
โรคต้อเนื้อ ปล่อยเอาไว้ไม่ใช่เรื่องดี

 

ในบรรดาโรคที่เกี่ยวกับดวงตา “ต้อเนื้อ (Pterygium)” อาจดูเหมือนเป็นความผิดปกติเล็ก ๆ ที่ไม่น่ากังวล แต่หากปล่อยปละละเลยโดยไม่ดูแลรักษา โรคนี้อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้ป่วยได้

 


ทำความรู้จัก “โรคต้อเนื้อ” คืออะไร?

 

ต้อเนื้อคืออะไร

 

ต้อเนื้อ คือ การเสื่อมสภาพของเส้นใยคอลลาเจนในเยื่อบุตาขาวที่ก่อให้เกิดเนื้อเยื่อผิดปกติและขยายเข้าไปในส่วนของกระจกตา ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อคล้ายพังผืดสามเหลี่ยมที่มักจะเริ่มต้นจากหัวตาบริเวณใกล้กับจมูก และค่อย ๆ ลามเข้าสู่ตาดำ หากเป็นแล้วอาจเกิดได้ทั้งตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง โดยทั่วไปแล้วโรคนี้จะเติบโตอย่างช้า ๆ แต่ถ้าหากต้อเนื้อเติบโตจนลามไปถึงกระจกตา จะส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้ 

 

ต้อเนื้ออาจจะมีลักษณะคล้ายกับ “ต้อลม (Pinguecula)” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาวะที่มักจะสับสนกัน โดยต้อลมคือการเสื่อมสภาพของเยื่อบุตาขาวที่ยังคงอยู่แค่ในบริเวณตาขาวเท่านั้น ไม่ได้มีการลุกลามเข้าไปในส่วนของตาดำ ซึ่งมักมีลักษณะเป็นก้อนนูนสีเหลือง

 

 

สาเหตุของการเกิดโรคต้อเนื้อ 

 

“รังสีอัลตราไวโอเลต (UV)” จากแสงแดด อาจเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดโรคนี้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งเสริมให้เกิดความเสี่ยงขึ้น ได้แก่

 

  • การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น เกษตรกร ชาวประมง คนงานก่อสร้าง เป็นต้น 

 

ทำงานหน้าคอม

 

  • ภาวะตาแห้งจากการใช้สายตาเป็นเวลานาน  เช่น ผู้ประกอบอาชีพที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ หรือผู้ที่เล่นโทรศัพท์เป็นระยะเวลานาน 

 

  • สภาพแวดล้อม การเผชิญกับลม ฝุ่นควัน สารเคมี และมลภาวะทางอากาศ อาจทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคืองขึ้นได้ 

 

 

อาการของโรคต้อเนื้อ 

 

อาการของต้อเนื้อจะแตกต่างกันไปตามระยะและความรุนแรงของโรค โดยอาการที่พบได้บ่อย มีดังนี้

 

  • รู้สึกระคายเคือง แสบและคันตา

 

ตาแดง

 

  • น้ำตาไหล ตาแดง และรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในดวงตา 

 

  • อาจมีอาการตาแห้งหรืออาการแพ้แสง 

 

  • ในกรณีที่ต้อเนื้อลุกลามเข้าไปในกระจกตา อาจทำให้ค่าสายตาเอียงเพิ่มขึ้นหรือทำให้เกิดตาพร่ามัวได้ 

 

 

การรักษาโรคต้อเนื้อ 

 

  • การรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีต้อเนื้อขนาดเล็กและไม่มีอาการ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง และให้คำแนะนำในการป้องกันไม่ให้ต้อเนื้อโตขึ้น 

 

  • การรักษาด้วยการผ่าตัด เป็นวิธีที่มักใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง, มีต้อเนื้อขนาดใหญ่ หรือต้อเนื้อที่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น โดยจะเป็นการผ่าตัดเพื่อลอกต้อเนื้อออกจากเยื่อและผิวกระจกตา ซึ่งใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน 

 

  • ต้อเนื้ออาจมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ แพทย์อาจพิจารณาใช้วิธีการผ่าตัดด้วยการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อใหม่ โดยใช้ส่วนของเนื้อเยื่อบุตาขาวของผู้ป่วย 

 

  • ในบางรายอาจพิจารณาการใช้ยา Mitomycin C ระหว่างผ่าตัด เพื่อลดโอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำ 

 

 

การป้องกันโรคต้อเนื้อ 

 

  • หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรค เช่น แสงแดด, ฝุ่น, ควัน หรือลม

 

สวมแว่นกันแดด

 

  • หากต้องออกจากบ้านควรสวมแว่นกันแดดหรือแว่นตาที่มีเลนส์กรองรังสี UV เสมอ

 

  • สวมหมวกเพื่อช่วยลดปริมาณแสงแดดที่จะตกกระทบดวงตา

 

  • หลีกเลี่ยงการนำมือไปขยี้ดวงตา เพื่อลดการอักเสบและระคายเคือง 

 

  • ดูแลสุขภาพดวงตาเสมอ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ, พักสายตาเป็นระยะ และเข้ารับตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี

 

 

โรคต้อเนื้อ เป็นโรคที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้โรคตาอื่น ๆ แม้จะไม่ได้อันตรายถึงขั้นตาบอด แต่ก็สามารถรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือคุณภาพการมองเห็นได้ การรู้เท่าทันอาการและป้องกันตัวเองจากปัจจัยเสี่ยง จะช่วยให้คุณสามารถดูแลดวงตาคู่นี้ให้มีสุขภาพดีไปได้อีกนาน



เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 

 

คลินิกจักษุ

 

ต้อลม โรคที่พนักงานอาจต้องเผชิญก่อนสูงอายุ