โรคด่างขาว
โรคด่างขาว แค่ผิวเปลี่ยนสีหรือมีอะไรมากกว่านั้น ?

 

คุณเคยลองสังเกตไหมว่า บนร่างกายบางทีอาจมีรอยด่างสีขาว บางคนก็อาจมีเล็กน้อย บางคนอาจจะมีทั่วร่างกาย อ่านมาจนถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าคืออะไร แล้วถ้าเกิดขึ้นกับตัวเราจะเป็นอันตรายหรือเปล่า จริง ๆ แล้วถ้าหากมีรอยด่างสีขาวมากกว่าคนทั่วไป คุณอาจเป็น “โรคด่างขาว (Vitiligo)” ที่ถึงแม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจได้ 

 


โรคด่างขาวคือ ?

 

โรคด่างขาวคืออะไร

 

เป็นโรคที่เกิดจากผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลง หรือสูญเสียสีผิวตามธรรมชาติ แล้วเกิดเป็นรอยด่างสีขาวคล้ายกับสีของชอล์กที่เห็นได้ และมีขอบเขตรอยโรคชัดเจน สามารถพบได้ในทุกส่วนของร่างกาย ในผู้ป่วยบางรายอาจพบว่ามีขนสีขาวร่วมด้วย เกิดขึ้นในคนทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งโรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่สามารถส่งผลต่อภาพลักษณ์ ความมั่นใจ หรือคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้

 

 

โรคด่างขาวเกิดจากสาเหตุใด ?

 

สาเหตุของโรคยังไม่ทราบอย่างแน่ชัด แต่อาจมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

 

  • พันธุกรรม หากมีบุคคลภายในครอบครัวเป็นโรคนี้ 

 

  • ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ โดยร่างกายอาจมีการต่อต้านเซลล์เม็ดสี

 

 

ถูกแสงแดดจัด

 

  • ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรค เช่น การถูกแสงแดดจัด, การสัมผัสกับสารเคมี หรือมีความเครียด เป็นต้น 

 

  • โรคประจำตัวร่วม เช่น โรคเบาหวาน, ภาวะซีด, โรคไทรอยด์ หรือโรคภูมิแพ้บางชนิด

 

 

โรคด่างขาวอาการเป็นอย่างไร ? 

 

  • ผู้ป่วยจะมีสีผิวที่ซีดก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นด่างสีขาว

 

  • มีขอบเขตของรอยโรคชัดเจน

 

  • รอยโรคอาจมีการขยายเพิ่มเติม หรือเกิดเป็นรอยใหม่ได้ โดยอาการจะค่อยเป็นค่อยไป

 

  • หากรอยโรคเกิดขึ้นบริเวณที่มีขนหรือเส้นผม อาจทำให้มีลักษณะเป็นเส้นสีขาวได้ 

 

  • อาจมีอาการคันร่วม 

 

  • ผิวหนังบริเวณที่เป็นโรคจะไวต่อแดดมากกว่าปกติ

 

 

ชนิดของโรคด่างขาว 

 

โรคด่างขาวแบบเฉพาะที่

 

  • รอยโรคมักเกิดขึ้นเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย

 

  • อาการค่อนข้างคงที่ และไม่ค่อยมีการลุกลาม 

 

  • พบบ่อยในเด็ก

 

โรคด่างขาวแบบกระจายทั่วไป

 

  • เป็นชนิดที่พบมากที่สุด

 

โรคด่างขาวแบบกระจาย

 

  • รอยโรคมักเกิดทั้งสองข้างของร่างกาย เช่น บริเวณมือทั้งสองข้าง รอบปาก หรืออาจพบทั่วร่างกาย 

 

  • มีโอกาสลุกลามมากกว่าชนิดอื่น

 

 

การวินิจฉัยโรคด่างขาว 

 

  • โดยทั่วไปแล้วลักษณะของโรคก็เพียงพอต่อการวินิจฉัย แต่แพทย์อาจมีการซักประวัติและตรวจร่างกายเพิ่มเติม 

 

  • ใช้แสง Wood’s lamp เพื่อตรวจผิวหนัง และแยกแยะโรคด่างขาวออกจากโรคผิวหนังชนิดอื่น 

 

  • การนำเลือดไปตรวจเพิ่มเติมที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อดูความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน หรือการทำงานของไทรอยด์

 

  • อาจมีการตัดเนื้อเยื่อรอยโรคบางส่วนเพื่อนำไปวินิจฉัยเพิ่มเติม

 

 

การรักษาโรคด่างขาว 

 

  • การใช้ยาทาเฉพาะที่ เช่น ยาทาโครลิมัส, ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ หรือยาไพมิโครลิมัส เพื่อลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างเม็ดสี

 

  • การฉายแสงอาทิตย์เทียม (Narrowband UVB) 

 

  • การรับประทานยาสำหรับผู้ป่วยที่มีการลุกลามของรอยโรค เช่น ยาต้านอนุมูลอิสระ หรือยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ 

 

  • การผ่าตัดปลูกถ่ายเม็ดสี จะใช้ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการคงที่ และไม่มีการตอบสนองต่อวิธีการรักษาอื่น 

 

 

วิธีการดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคด่างขาว 

 

  • หลีกเลี่ยงการถูกแดดจัด หรือใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง หากต้องออกข้างนอกในวันที่แดดจ้าแบบจำเป็น

 

ฟังเพลง

 

  • หลีกเลี่ยงความเครียด 

 

  • พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

 

  • การใช้เครื่องสำอางปกปิดรอยโรค ในผู้ป่วยที่มีการตอบสนองต่อการรักษาไม่ดี เพื่อช่วยเสริมความมั่นใจในชีวิตประจำวัน

 

  • พบแพทย์ตามนัด เพื่อรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง 

 

 

โรคด่างขาว อาจไม่ใช่โรคที่มีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง แต่ส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยอย่างมาก การเข้าใจโรคนี้อย่างถูกต้อง คือก้าวแรกในการดูแลตัวเองและผู้ป่วยรอบข้าง สิ่งสำคัญคือ “โรคด่างขาวไม่ใช่โรคติดต่อ” และปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้ หากคุณหรือคนใกล้ตัวเริ่มมีรอยด่างสีขาว ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและแนวทางการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่ระยะเริ่มต้น



เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

คลินิกอายุรกรรม

 

โรคทางพันธุกรรม การถ่ายทอดที่ไม่มีใครอยากได้