คุณเคยลองสังเกตไหมว่า บนร่างกายบางทีอาจมีรอยด่างสีขาว บางคนก็อาจมีเล็กน้อย บางคนอาจจะมีทั่วร่างกาย อ่านมาจนถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าคืออะไร แล้วถ้าเกิดขึ้นกับตัวเราจะเป็นอันตรายหรือเปล่า จริง ๆ แล้วถ้าหากมีรอยด่างสีขาวมากกว่าคนทั่วไป คุณอาจเป็น “โรคด่างขาว (Vitiligo)” ที่ถึงแม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจได้
เป็นโรคที่เกิดจากผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลง หรือสูญเสียสีผิวตามธรรมชาติ แล้วเกิดเป็นรอยด่างสีขาวคล้ายกับสีของชอล์กที่เห็นได้ และมีขอบเขตรอยโรคชัดเจน สามารถพบได้ในทุกส่วนของร่างกาย ในผู้ป่วยบางรายอาจพบว่ามีขนสีขาวร่วมด้วย เกิดขึ้นในคนทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งโรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่สามารถส่งผลต่อภาพลักษณ์ ความมั่นใจ หรือคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้
สาเหตุของโรคยังไม่ทราบอย่างแน่ชัด แต่อาจมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
พันธุกรรม หากมีบุคคลภายในครอบครัวเป็นโรคนี้
ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ โดยร่างกายอาจมีการต่อต้านเซลล์เม็ดสี
ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรค เช่น การถูกแสงแดดจัด, การสัมผัสกับสารเคมี หรือมีความเครียด เป็นต้น
โรคประจำตัวร่วม เช่น โรคเบาหวาน, ภาวะซีด, โรคไทรอยด์ หรือโรคภูมิแพ้บางชนิด
ผู้ป่วยจะมีสีผิวที่ซีดก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นด่างสีขาว
มีขอบเขตของรอยโรคชัดเจน
รอยโรคอาจมีการขยายเพิ่มเติม หรือเกิดเป็นรอยใหม่ได้ โดยอาการจะค่อยเป็นค่อยไป
หากรอยโรคเกิดขึ้นบริเวณที่มีขนหรือเส้นผม อาจทำให้มีลักษณะเป็นเส้นสีขาวได้
อาจมีอาการคันร่วม
ผิวหนังบริเวณที่เป็นโรคจะไวต่อแดดมากกว่าปกติ
โรคด่างขาวแบบเฉพาะที่
รอยโรคมักเกิดขึ้นเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย
อาการค่อนข้างคงที่ และไม่ค่อยมีการลุกลาม
พบบ่อยในเด็ก
โรคด่างขาวแบบกระจายทั่วไป
เป็นชนิดที่พบมากที่สุด
รอยโรคมักเกิดทั้งสองข้างของร่างกาย เช่น บริเวณมือทั้งสองข้าง รอบปาก หรืออาจพบทั่วร่างกาย
มีโอกาสลุกลามมากกว่าชนิดอื่น
โดยทั่วไปแล้วลักษณะของโรคก็เพียงพอต่อการวินิจฉัย แต่แพทย์อาจมีการซักประวัติและตรวจร่างกายเพิ่มเติม
ใช้แสง Wood’s lamp เพื่อตรวจผิวหนัง และแยกแยะโรคด่างขาวออกจากโรคผิวหนังชนิดอื่น
การนำเลือดไปตรวจเพิ่มเติมที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อดูความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน หรือการทำงานของไทรอยด์
อาจมีการตัดเนื้อเยื่อรอยโรคบางส่วนเพื่อนำไปวินิจฉัยเพิ่มเติม
การใช้ยาทาเฉพาะที่ เช่น ยาทาโครลิมัส, ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ หรือยาไพมิโครลิมัส เพื่อลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างเม็ดสี
การฉายแสงอาทิตย์เทียม (Narrowband UVB)
การรับประทานยาสำหรับผู้ป่วยที่มีการลุกลามของรอยโรค เช่น ยาต้านอนุมูลอิสระ หรือยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
การผ่าตัดปลูกถ่ายเม็ดสี จะใช้ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการคงที่ และไม่มีการตอบสนองต่อวิธีการรักษาอื่น
หลีกเลี่ยงการถูกแดดจัด หรือใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง หากต้องออกข้างนอกในวันที่แดดจ้าแบบจำเป็น
หลีกเลี่ยงความเครียด
พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การใช้เครื่องสำอางปกปิดรอยโรค ในผู้ป่วยที่มีการตอบสนองต่อการรักษาไม่ดี เพื่อช่วยเสริมความมั่นใจในชีวิตประจำวัน
พบแพทย์ตามนัด เพื่อรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
โรคด่างขาว อาจไม่ใช่โรคที่มีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง แต่ส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยอย่างมาก การเข้าใจโรคนี้อย่างถูกต้อง คือก้าวแรกในการดูแลตัวเองและผู้ป่วยรอบข้าง สิ่งสำคัญคือ “โรคด่างขาวไม่ใช่โรคติดต่อ” และปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้ หากคุณหรือคนใกล้ตัวเริ่มมีรอยด่างสีขาว ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและแนวทางการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง