ตรวจมะเร็งตับ พบตั้งแต่ระยะแรก การรักษาจะมีประสิทธิภาพ
ตรวจมะเร็งตับ พบตั้งแต่ระยะแรก การรักษาจะมีประสิทธิภาพ

มะเร็งตับ เป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง เนื่องจากจะไม่แสดงอาการผิดปกติตั้งแต่ระยะแรก ๆ นอกเสียจากไปตรวจสุขภาพหรือตรวจคัดกรองมะเร็งตับเท่านั้นถึงจะเจอก้อนเนื้อร้าย ทั้งนี้เมื่อพบก่อนการลุกลาม ประสิทธิภาพในการรักษาที่จะหายขาดมีโอกาสสูง  เนื่องจากเซลล์มีขนาดเล็ก อาจไม่ต้องถึงขั้นผ่าตัด ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งการดูแลสุขภาพ มาตามนัดหมายหรือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดหรือไม่

 

 

มะเร็งตับเกิดจากอะไร

 

  • บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากอยู่เป็นประจำ

 

  • ใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลข้างเคียงต่อตับ

 

 

  • ผู้ป่วยโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ตับแข็ง หรือภาวะไขมันพอกตับ

 

  • ภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่แข็งแรง

 

  • กรรมพันธุ์

 

  • พักผ่อนไม่เพียงพอ

 

  • รับประทานผัก ผลไม้น้อยเกินไป

 

 

ดื่มสุราหนัก

 

 

ชนิดของมะเร็งตับ

 

เซลล์ท่อน้ำดีในตับ

 

  • Cholangiocarcinoma มักจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคพยาธิในไม้ในตับ จากการรับประทานอาหารที่ผิดสุขลักษณะ ได้แก่

 

  • เนื้อสัตว์ดิบแบบไม่ปรุงสุก โดยเฉพาะปลาน้ำจืด

 

  • วัตถุดิบที่ปนเปื้อนดินประสิว และสารก่อนมะเร็งอื่น ๆ

 

  • กรรมวิธีหมัก ดอง และการปิ้ง ย่าง รมควันอย่างไหม้เกรียม

 

เซลล์ตับ  Hepatocellular Carcinoma

 

  • ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ จนร่างกายป่วยเรื้อรังเป็นพาหะ โดยไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด จากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน ติดต่อทางโลหิตจากมารดาสู่บุตร รับประทานอาหารแห้งที่ปนเปื้อนสาร Aflatoxin ถั่วลิสงคั่วป่น พริกตากแห้ง ธัญพืชอบเกลือหมดอายุ เป็นต้น

 

 

ปวดจุกท้อง

 

 

อาการเสี่ยงโรคมะเร็งตับ

 

ในระยะแรก ๆ จะไม่แสดงความผิดปกติออกมา แต่หากมีการลุกลามขึ้นมาแล้ว จะมีอาการดังนี้

 

  • อ่อนเพลีย

 

  • เบื่ออาหาร

 

  • น้ำหนักลด

 

  • ท้องอืด

 

  • ปวด จุก เสียดชายโครงด้านขวา

 

  • แน่นท้อง

 

เมื่อมีการอุดตันของท่อน้ำดี

 

  • เป็นไข้

 

  • ตามร่างกายและดวงตาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

 

  • บวมบริเวณขาและหน้าท้อง

 

  • ปัสสาวะมีสีเข้มจัด

 

 

มะเร็งระยะสุดท้าย

 

 

ระยะของมะเร็งตับ

 

ระยะที่ 1

 

  • ก้อนมะเร็งมีขนาดเล็กไม่เกิน 2 เซนติเมตร 1 ก้อน

 

ระยะที่ 2

 

  • คล้ายกับระยะแรกแต่มีไม่เกิน 3 ก้อน ขนาด 3 เซนติเมตร

 

ระยะที่ 3

 

  • มีการเพิ่มของก้อนมะเร็ง รวมทั้งขนาดใหญ่ขึ้น

 

ระยะที่ 4

 

  • เกิดการลุกลามเข้าไปยังในเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียงกับตับ

 

  • เข้าสู่หลอดเลือดดำในช่องท้อง

 

  • ไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ตับ

 

  • แพร่กระจายตามกระแสโลหิต

 

ระยะสุดท้าย

 

  • ไม่มีประสิทธิภาพการทำงานของตับ

 

  • ผู้ป่วยสุขภาพเสื่อมโทรม นอนติดเตียง ต้องมีคนช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด

 

 

ตรวจ AFP

 

 

จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นมะเร็งตับ

 

ตรวจเลือดหาระดับของสารอัลฟ่าฟีโตโปรตีน หรือ AFP

 

  • ซึ่งเป็นสารบ่งบอกว่าผู้ตรวจเป็นมะเร็งหรือไม่

 

ใช้เทคโนโลยีเครื่องมือรังรังสีทางการแพทย์

 

  • เช่น อัลตราซาวด์

 

  • ฉีดสารทึบแสงเข้าเส้นเลือดแดง

 

  • CT Scan

 

  • MRI

 

 

โรงพยาบาลเพชรเวชให้บริการเจาะเลือดเพื่อหาสารมะเร็งตับ AFP ซึ่งจะอยู่ในโปรแกรมคัดกรองโรคตับ อีกทั้งผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งนอนน้อย ดื่มสุรา ใช้ยาบางชนิดอยู่เป็นประจำ ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบด้วย ไม่ว่าจะโปรแกรมตรวจร่างกายไหน ๆ ล้วนแล้วแต่คุ้มค่ากับราคาที่เสียไปทั้งสิ้น ยิ่งไม่มีอาการแต่ดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันอย่างไม่ใส่ใจสุขภาพ จะส่งผลเสียต่อตัวท่านเองและบุคคลรอบข้างได้

 

 

 


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

.

 

ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหารและตับ

 

 

โปรแกรมตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบ และคัดกรองโรคตับ

 

 

วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ

 

 

ตรวจการทำงานของตับมีอะไรบ้าง