วัคซีนที่ควรฉีด ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพช่วงหน้าฝน
วัคซีนที่ควรฉีด ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพช่วงหน้าฝน

เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงหน้าฝนเป็นฤดูที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ที่ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น หลายท่านระมัดระวังป้องกันผลกระทบรุนแรงที่อาจเกิดกับสุขภาพด้วยการฉีดวัคซีนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในช่วงวัยผู้ใหญ่ อาจชะล่าใจว่าแข็งแรงดี รวมทั้งตั้งครรภ์ หรือที่กำลังเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งนี้ก่อนได้รับการฉีดแต่ละชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ความเสี่ยงของแต่ละโรคก็จะไม่เท่ากัน

 

 

วัคซีน คอตีบ ไอกรนบาดทะยัก

 

คอตีบ

 

  • เป็นโรคติดต่อร้ายแรงชนิดหนึ่ง ซึ่งเชื้อจะอยู่ในสารคัดหลั่งไม่ว่าจะเป็นน้ำลาย น้ำมูก แพร่เชื้อผ่านการไอ จาม มักแสดงความผิดปกติเริ่มจากเป็นไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ กลืนลำบาก กล่องเสียงอักเสบ หายใจลำบาก

 

ไอกรน

 

  • โดยเชื้อจะอยู่ในบริเวณคอ ติดต่อกันคล้ายกับโรคในข้างต้น โดยจะมีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล หายใจเสียงดังวูบ ส่งผลกระทบขณะรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ อาจทำให้เกิดการชัก สมองถูกทำลาย โดยเฉพาะผู้ป่วยวัยเด็กที่ต้องระวัง

 

บาดทะยัก

 

  • พิษจากเชื้อนี้จะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีออกซิเจน และเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล ซึ่งมันจะไปทำลายระบบประสาท เกิดการเกร็ง กระตุกกล้ามเนื้อ อ้าปากไม่ได้ ขากรรไกรแข็ง หายใจลำบาก

 

วัคซีนที่จะป้องกันทั้ง 3 โรคนี้ ควรได้รับในช่วง 1 ปี หลังคลอด และฉีดอีกครั้งในช่วง 18 เดือน และอายุ 11-12 ปี สำหรับผู้ใหญ่ควรรับการกระตุ้นทุก ๆ 10 ปี ซึ่งบุตรสามารถติดเชื้อจากมารดาได้ ดังนั้นผู้ตั้งครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไปควรมาทำการฉีดวัคซีนนี้และจะป้องกันบุตรเมื่อคลอดออกมาแล้ว 6 เดือน

 

 

วัคซีนสำหรับเด็ก

 

 

วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ

 

  • ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pneumonia  เป็นสาเหตุที่ทำให้อวัยวะหลายตำแหน่งอักเสบ ไม่ว่าจะเป็น คอ หลอดลม หูชั้นกลาง โดยเฉพาะเด็กต่ำกว่า 2 ขวบ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคประจำตัวเรื้อรังต่าง ๆ ที่มีภูมิคุ้มคุ้มกันบกพร่อง หอบหืดขึ้น รวมทั้งพฤติกรรมการสูบบุหรี่หรือสารเสพติดอื่น

 

  • สังเกตจากอาการเป็นไข้ ไอมีเสมหะ หายใจติดขัด คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก หนาวสั่น อ่อนเพลีย หากเป็นทารกมักจะไม่ดูดนมหรือน้ำ ร้องไห้งอแง

 

  • วัคซีนนี้มี 2 ชนิด คือ PCV13 และ PPSV23 โดยจะฉีดชนิดแรกไปก่อน หลังจากนั้น 8 สัปดาห์ จึงจะได้รับอีกแบบหนึ่ง ซึ่งจะป้องกันเชื้อนี้ได้ยาวนานถึง 5 ปี

 

 

วัคซีนสำหรับคนท้อง

 

 

วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ

 

เชื้อไวรัสที่ทำให้ตับเกิดการอักเสบมีหลายชนิด เช่น ไวรัสตับอักเสบ A B C D และ E หากปล่อยไว้โดยไม่ทำการรักษามีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นมะเร็งหรือตับแข็งได้

 

วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ

 

  • สามารถป้องกันเชื้อชนิดนี้ได้เกือบ 100 % เริ่มเข้ารับการฉีดได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ รวมทั้งผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ทำงานใกล้ชิดกับสิ่งแวดล้อมที่เสี่ยงติดเชื้อ เช่น ในห้องปฏิบัติการ บ่อบำบัดน้ำเสีย เชฟปรุงอาหารในห้องครัว และผู้ที่มีกิจกรรมทางเพศผ่านทวารหนัก โดยจะฉีดเพียง 2 ครั้ง ระยะเวลาห่างกัน 6-12 เดือน

 

วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

 

  • ส่วนประกอบจากโปรตีนจากผิวของไวรัส (HBsAg) ทำให้เกิดการกระตุ้นในร่างกายขึ้น โดยที่โรคนี้ติดต่อกันได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้สิ่งของส่วนบุคคลร่วมกัน เช่น แปรงสีฟัน มีดโกนหนวด การคลอดบุตร สัมผัสโลหิตหรือบาดแผลผู้ป่วย ทารกที่เพิ่งเกิดมาสามารถได้รับการฉีดได้เลย รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคตับ ฟอกไต ได้รับการถ่ายเลือด และผู้ใช้สารเสพติด วัคซีนชนิดนี้จะฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ครั้งที่ 1-2 ห่างกัน 30 – 60 วัน เข็มสุดท้ายห่างจากครั้งแรก 6 เดือน

 

 

วัคซีนสำหรับผู้สูงอายุ

 

 

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์

 

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีการแนะนำให้เพิ่มไวรัสสายพันธุ์ B เข้ามาเป็นหนึ่งในของวัคซีน 4 สายพันธุ์ ได้แก่

 

  • A/H1N1

 

  • A/ H3N2

 

  • B ตระกูล Victoria

 

  • B ตระกูล Yamagata

 

เนื่องจากเชื้อนี้มีการกลายพันธุ์บ่อยครั้ง  ควรฉีดปีละครั้งโดยเฉพาะก่อนฤดูฝน โดยเฉพาะผู้ที่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เช่น คุณแม่ตั้งครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน-1 ขวบ คนสูงอายุวัยชรา 65 ปีขึ้นไป รวมทั้งผู้ป่วยโรคประจำตัวเรื้อรังต่าง ๆ เช่น ธาลัสซีเมีย หอบหืด หัวใจ ปอดอุดกั้น ไตวาย เบาหวาน รวมทั้งได้รับการรักษาด้วยวิธีการเคมีบำบัด หรือมีเชื้อ HIV ในร่างกาย

 

 

ในความเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลายโรคและวัคซีนหลายชนิดที่ควรได้รับ แต่วัคซีนที่กล่าวมานั้นทางโรงพยาบาลเพชรเวชมีบริการให้ทุกท่านที่สนใจ ซึ่งสามารถได้รับทั้งปี ไม่จำเป็นแค่เฉพาะหน้าฝน หลังจากรับการฉีดมาแล้ว เกิดความผิดปกติ ให้รีบแจ้งแพทย์ทันที รวมทั้งควรออกกำลังกาย รับประทานอาหารมีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อประสิทธิภาพของสารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย

 

 

 


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

 

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ (สายพันธุ์ 2023)

 

 

วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ

 

 

วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก

 

 

วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ