“อ้วน” คำ ๆ เดียวแต่ความหมายกลับบาดลึกลงไปถึงขั้วหัวใจ และเป็นปัญหาที่หลายคนกำลังประสบอยู่ บางคนอาจจะรู้ตัวว่าตัวเองเป็น "โรคอ้วน" แต่บางคนกลับยังไม่รู้ตัวแถมยังคงทำพฤติกรรมเสี่ยงที่เปรียบเหมือนการนับถอยหลังเวลาชีวิตของตัวเองเพราะโรคนี้สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรง วันนี้เราจึงมาพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับโรคนี้ที่แม้คนไม่อ้วนก็เข้าถึงได้กัน
แม้จะเคยได้ยินคำว่า “โรคอ้วน” แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จักคำนี้ดีจริง ๆ บางคนอาจจะคิดว่าโรคนี้คือโรคของคนที่มีรูปร่างใหญ่ ลงพุง แต่โรคอ้วนเป็นชื่อเรียกสภาวะทางร่างกายที่มีการสะสมไขมันในปริมาณมาก เพราะร่างกายได้รับพลังงานมากกว่าที่ต้องการในแต่ละวันและไม่สามารถเผาผลาญออกไปจนหมดได้จึงมีการสะสมพลังงานส่วนเกินไว้ในอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเอง
คนที่เป็นโรคนี้สามารถสังเกตตัวเองได้ง่าย ๆ คือ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง เช่น แขนและขาใหญ่ขึ้น พุงใหญ่ขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีวัดดัชนีมวลกาย (BMI) ซึ่งคำนวณได้จากสูตรน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัมหารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลังสองของเราเอง ตัวอย่างเช่น
นายเพชรเวชมีน้ำหนัก 56 กิโลกรัม มีส่วนสูง 165 เซนติเมตร (1.6 เมตร) เมื่อเข้าสูตรน้ำหนัก 56 กิโลกรัมหารด้วยส่วนสูง 1.6 เมตรจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 20.56
หากมีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30 แสดงว่ากำลังเป็นโรคลงพุงนี้อยู่
และวิธีสุดท้ายที่จะบอกได้ว่าตัวเองเป็นโรคนี้หรือไม่ คือการวัดรอบเอว โดยผู้ชายจะต้องมีเส้นรอบเอวไม่เกิน 90 เซนติเมตร ส่วนผู้หญิงจะต้องมีเส้นรอบเอวไม่เกิน 80 เซนติเมตร
ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการเหนื่อยหอบ หรือเหงื่อออกได้ง่ายหากทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก และทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้อย่างยากลำบาก เพราะเคลื่อนไหวร่างกายได้ยากกว่าคนปกติ มีอาการนอนกรน และหายใจติดขัดจนอาจจะเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ด้วยความที่โรคนี้ส่งผลต่อภาพรวมของร่างกายอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้มีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างมากมายทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ ได้แก่
ไม่เพียงแค่เท่านี้การเป็นโรคอ้วนยังมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น ประจำเดือนเกิดความผิดปกติ ความดันโลหิตสูง ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น แต่หากน้ำหนักตัวลดลง ปริมาณไขมันในร่างกายจะลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ภาวะเหล่านี้บรรเทาลงเช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญในการรักษาโรคอ้วน รวมถึงการดูแลพฤติกรรมการทานอาหารของตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวนั่นเอง
สำหรับการรักษาในเบื้องต้นผู้ป่วยต้องควบคุมอาหารและดูแลสุขภาพมากขึ้น เช่น ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้น้ำหนักลดลงและมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น แต่ในบางกรณีแพทย์อาจให้ทานยาที่มีผลต่อการลดน้ำหนัก แต่กรณีนี้ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์และต้องทำตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ในบางรายอาจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดก่อนการเข้ารับการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ต่อไป
การป้องกันโรคนี้นั้นทำได้ไม่ยากแต่ต้องพึ่งความตั้งใจและการไม่ปล่อยปละละเลยนั่นคือ เราต้องควบคุมและปรับพฤติกรรมการทานอาหารให้ดีขึ้นพยายามไม่ทานอาหารจำพวกของทอดติดมันมากเกินไป รวมถึงการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้ยังควรชั่งน้ำหนักเป็นประจำเพื่อให้รู้แนวทางในการปฏิบัติตนให้มีน้ำหนักตรงตามมาตรฐานต่อไป
โรคอ้วนเป็นโรคที่เกิดจากความอยากทานตามใจปากของเราเสียมากกว่า ดังนั้นหากเราชนะใจตนเองได้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารบวกกับการออกกำลังกายเราจะห่างไกลโรคต่าง ๆ ได้หลายโรครวมถึงโรคอ้วนด้วย
________________________________
ติดต่อแผนกอายุรกรรม
วันเปิดทำการ : บริการทุกวัน
เวลาเปิดทำการ : 08.00-20.00 น. (ติดต่อลงทะเบียนก่อนเวลา 19.30 น.)
ตึก/ชั้น : A/16
เบอร์ติดต่อ : 1390