เจ็บคอ อาการเจ็บที่คอแต่อาจลามไปที่อื่น
เจ็บคอ อาการเจ็บที่คอแต่อาจลามไปที่อื่น

อาการเจ็บคอเป็นความรู้สึกเจ็บ หรือการระคายเคืองในลำคอ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของผู้ที่ไม่สบาย และเป็นปัญหากวนใจที่ใครหลาย ๆ คนกำลังเผชิญ อาการเจ็บคอมักเกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณลำคอ เช่น ต่อมทอนซิล, เพดานอ่อน, กล่องเสียง, โคนลิ้น เป็นต้น อาจเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ  หรืออาจจะไม่ได้อักเสบจากการติดเชื้อด้วย

 

ตอนป่วยทำไมต้องเจ็บคอ

 

คอของเรามีอวัยวะหนึ่งที่เรียกว่า “ต่อมทอนซิล” ซึ่งเป็นต่อมที่ทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายทางปาก และจมูก ลองคิดภาพว่าต่อมทอนซิลของเราคือทหารที่เฝ้าปราการร่างกายของเราไว้ หากศัตรูที่บุกเข้ามาคือโรคร้ายที่เกินต้านทานได้ เมื่อต่อมทอนซิลไม่สามารถเอาชนะเชื้อโรคพวกนั้นก็จะเกิดการอักเสบ หรือบวมทำให้เกิดอาการเจ็บคอนั่นเอง

 

สาเหตุของการเจ็บคอ

 

การเจ็บคอมักจะพบว่ามีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสเป็นส่วนใหญ่ เช่น ไวรัสไข้หวัด อีสุกอีใส โรคมือเท้าปาก เป็นต้น อาการเจ็บคอที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสนั้นจะสามารถหายเองได้ภายใน 3-7 วัน โดยไม่ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ แต่หากมีสาเหตุมาจากแบคทีเรีย เช่น โรคคออักเสบ ฝีบริเวณคอหอย เป็นต้น สาเหตุเหล่านี้มักจะใช้เวลารักษานานกว่า โดยสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อดังกล่าวคือการอยู่ใกล้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ หรือผู้ป่วยได้รับละอองอากาศที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไปในร่างกาย

นอกจากนี้อาการเจ็บคอยังเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่การรับเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ โรคไซนัสอักเสบ เพราะสารคัดหลั่งจากไซนัสจะไหลลงคอจนทำให้เกิดอาการเจ็บคอ และเกิดจากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในลำคอทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

 

อาการของการเจ็บคอ

 

อาการเจ็บคอสามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ 2 ประการ ดังนี้

อาการที่เกิดจากเชื้อไวรัส

  • จะมีอาการเจ็บคอ แต่กลืนแล้วไม่เจ็บ
  • บริเวณผนังคอหอยอาจแดงเล็กน้อย
  • มีอาการไอ จาม และอาจมีไข้ต่ำ ๆ ร่วมด้วย

อาการที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย

  • ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บคอเมื่อกลืนอาหาร
  • บริเวณผนังคอหอยแดง และมีอาการบวม
  • ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน และมีไข้สูง

 

ภาวะแทรกซ้อนจากอาการเจ็บคอ

 

เนื่องจากอาการเจ็บคอมักมีสาเหตุมาจากการเชื้อแบคทีเรีย หากอาการติดเชื้อดังกล่าวไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมจะทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวได้ โดยอวัยวะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อจากลำคอ คือ หู และจมูกนั่นเอง นอกจากนี้หากยังไม่ได้รับการรักษาและปล่อยไว้เชื้อยังสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้อีกด้วย

 

การรักษาอาการเจ็บคอ

 

การรักษาอาการเจ็บคอจะมีวิธีการรักษาตามสาเหตุของอาการเจ็บคอ ได้แก่

  • เชื้อไวรัส โดยปกติจะสามารถหายได้เองภายในเวลาไม่เกิน 7 วัน หากมีการใช้ยาแอสไพรินในเด็กควรระวัง เพราะอาจมีผลข้างเคียงในระดับรุนแรงเกิดขึ้นกับเด็กได้
  • แบคทีเรีย ในกรณีอาการไม่หายไปเองในเวลา 7 วัน และมีอาการอื่นปรากฏร่วมด้วย เช่น มีไข้ เสมหะมีเลือดปะปน รวมถึงอาการอื่น ๆ นอกจากเจ็บคอ ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรับคำแนะนำในการรักษาต่อไป
  • ไม่ได้เกิดจากเชื้อ ให้ทำการรักษาจากตัวสาเหตุ เช่น หากเกิดจากผลกระทบจากโรคอื่นให้รักษาโรคดังกล่าวให้หาย หรือหากเกิดจากอาการภูมิแพ้ก็ควรหลีกเลี่ยงสารหรือวัตถุก่อภูมิแพ้และรักษาตามอาการต่อไป

 

การป้องกันอาการเจ็บคอ

 

สามารถทำได้ด้วยการดูแลในเรื่องสุขอนามัยในชีวิตประจำวัน และหลีกเลี่ยงสถานที่หรือวัตถุที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย ได้แก่

  • ไม่ใช้อุปกรณ์และของต่าง ๆ ร่วมกับผู้อื่น
  • ล้างมือก่อน-หลังทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อป้องกันแบคทีเรีย
  • ดูแลสุขอนามัยภายในบ้านให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
  • ดื่มน้ำให้เพียงต่อ 1 วัน
  • พยายามหลีกเลี่ยงสารที่แพ้ เช่น ฝุ่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ และสารเคมีต่าง ๆ เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการสูดดมควันต่าง ๆ เช่น ควันจากยานพาหนะ หรือควันบุหรี่ เป็นต้น

 

อาการเจ็บคอเป็นอาการที่ทุกคนเคยพบเจอในแต่ละช่วงชีวิตอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อมีอาการเจ็บคอเราจึงขอแนะนำให้รักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้หายขาดจากอาการเจ็บคอ และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนไปด้วยนั่นเอง

 

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

___________________________________


สอบถามคลินิกหูคอจมูก

 

วันเปิดทำการ : บริการทุกวัน
เวลาเปิดทำการ : 08.00-20.00 น. (ติดต่อลงทะเบียนก่อนเวลา 19.30 น.)
ตึก/ชั้น : A/16
เบอร์ติดต่อ : 1390