Drink coffee while pregnant
Drink coffee while pregnant

การดื่มชา กาแฟหรือโกโก้ที่มีคาเฟอีนสำหรับคนท้องควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ หรือทำให้ร่างกายของคุณแม่เสียแคลเซียมและธาตุเหล็ก แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดื่มหรือทานอาหารเหล่านี้ได้ให้จำกัดปริมาณคาเฟอีน 200 มิลลิกรัม / วัน หรือให้ดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นที่มีรสหวานทดแทน เช่น น้ำผลไม้ เป็นต้น

 

ทำไมคนท้องจึงควรหลีกเลี่ยงกาแฟ โกโก้ และชาเขียว

 

เครื่องดื่มเหล่านี้มีส่วนผสมที่เหมือนกันคือ คาเฟอีน โดยปกติแล้วการดื่มสารคาเฟอีนมากจนเกินไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพอยู่แล้ว คุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่จึงมีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นมีอยู่หลายประการ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มมากขึ้น หรือส่งผลให้ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้คาเฟอีนยังทำให้เกิดภาวะตื่นตัวยากต่อการนอนพักผ่อนซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณแม่ และทารกในครรภ์

 

คาเฟอีนส่งผลเสียต่อครรภ์ของคุณแม่อย่างไร

 

1. เสี่ยงต่อโรคขณะตั้งครรภ์

คาเฟอีนอยู่ในอาหารหลายชนิดไม่ใช่แค่เพียงเครื่องดื่มจำพวกชากาแฟเท่านั้น เช่น เค้ก หรือขนมช็อกโกแลต อาหารเหล่านี้อาจมีน้ำตาลเป็นส่วนผสมส่งผลให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูงซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้สารคาเฟอีนยังส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์เร็วขึ้นด้วย
 

2. ส่งผลให้สารอาหารของทารกน้อยลง

ทารกในครรภ์ต้องใช้ธาตุเหล็กในการเจริญเติบโต แต่สารคาเฟอีนในร่างกายของคุณแม่จะส่งผลให้การดูดซึมธาตุเหล็กน้อยลง รวมไปถึงการกระตุ้นการปัสสาวะจากคาเฟอีนส่งผลให้ร่างกายของคุณแม่สูญเสียแคลเซียมมากกว่าปกติอีกด้วย

 

3. มีส่วนทำให้พักผ่อนได้น้อยลง

การดื่มหรือกินอาหารที่มีคาเฟอีน โดยเฉพาะกาแฟอย่างที่เรารู้กันดีว่าจะส่งผลให้ผู้ที่ดื่มตื่นตัวไม่ง่วงนอนเหมาะกับคนวัยทำงาน แต่สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์การได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก หากพักผ่อนน้อยเกินไปจะส่งผลต่อภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้ง่ายขึ้น

 

คนท้องดื่มกาแฟได้ไหม

 

ปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่มและขนมที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระวัง

 

  • กาแฟ 1 แก้วโดยประมาณ : แบบสำเร็จรูป มีคาเฟอีนประมาณ 63 มิลลิกรัม / กาแฟชงเอง มีคาเฟอีนประมาณ 95 ถึง 165 มิลลิกรัม
     
  • ชา 1 แก้วโดยประมาณ : แบบสำเร็จรูป มีคาเฟอีนประมาณ 26 ถึง 36 มิลลิกรัม / ชาชงเอง มีคาเฟอีนประมาณ 48 มิลลิกรัม
     
  • โกโก้ 1 แก้วโดยประมาณ : โกโก้ร้อนมีคาเฟอีนประมาณ 8 ถึง 12 มิลลิกรัม
     
  • น้ำอัดลม 1 กระป๋องโดยประมาณ : มีคาเฟอีนประมาณ 37 มิลลิกรัม
     
  • ขนมช็อกโกแลต 1 ชิ้นโดยประมาณ : ขนมช็อกโกแลตทั่วไปมีคาเฟอีนประมาณ 25 มิลลิกรัม / ขนมดาร์กช็อกโกแลตมีคาเฟอีนประมาณ 30 มิลลิกรัม

 

หากคนท้องต้องการดื่มชา ดื่มกาแฟควรทำอย่างไร

 

การดื่มเครื่องดื่มดังกล่าวถึงแม้จะควรหลีกเลี่ยงแต่ในบางรายอาจมีความจำเป็นที่ต้องดื่ม หรือมีความต้องการเป็นการส่วนตัวสามารถดื่มได้โดยต้องไม่ให้ปริมาณคาเฟอีนเกินวันละ 200 มิลลิกรัมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ และควรลดปริมาณการดื่มลงหากสามารถทำได้

 

หากติดรสหวานของชา หรือโกโก้ควรทำอย่างไร

 

สามารถดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นที่มีรสหวานแต่ไม่มีสารคาเฟอีนทดแทนได้ เช่น นมหรือน้ำผลไม้ เป็นต้น เครื่องดื่มเหล่านี้ยังเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกในครรภ์อีกด้วย

 

สิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์คือการปรับทั้งเรื่องการทานอาหาร และเพิ่มการดูแลตนเองให้มากขึ้นเพื่อสุขภาพครรภ์ที่ดี หรือเลือกการฝากครรภ์เพื่อรับคำแนะนำและการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตลอดเวลาการตั้งครรภ์ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีเช่นกัน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

แพคเกจที่เกี่ยวข้อง