เหตุการณ์แผ่นดินไหว แม้ระยะเวลาจะผ่านไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2568 แต่หลายท่านอาจยังคงเวียนหัว โคลงเคลง รู้สึกว่าตึก-อาคารสั่นไหวอยู่ ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นเหล่านี้อาจไม่ได้คิดไปเอง แต่เป็นภาวะที่มีชื่อว่า “อาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหว (Post-Earthquake Dizziness Syndrome)" เป็นชื่อโรคที่ประเทศไทยไม่ค่อยคุ้นหู แต่ในประเทศที่มีการเกิดแผ่นดินไหวบ่อยอย่างประเทศญี่ปุ่น จะมีชื่อโรคเรียกว่า "กลุ่มอาการจิชินโยอิ" มีความหมายตรงตัว แปลว่า "เมาแผ่นดินไหว" โดยบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับภาวะนี้กันให้มากขึ้น
ระบบการทรงตัว (Vestibular System)
ภายในหูชั้นในจะมีการทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัว เมื่อเจอเหตุการณ์แผ่นดินไหว ระบบภายในหูชั้นในอาจถูกรบกวน และทำให้สมองยังคงรับสัญญาณการเคลื่อนไหว ทั้งที่เหตุการณ์จบลงแล้ว
ผลกระทบทางจิตใจและความเครียด
สภาพของจิตใจมีส่วนสำคัญในการทำให้อาการเวียนหัวที่เป็นอยู่อาจรุนแรงขึ้นได้ เพราะความเครียดจะกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ อาจทำให้เกิดอาการใจสั่น หรือเหมือนว่ายังอยู่ในสถานการณ์อันตราย
เวียนหัว, บ้านหมุน
ขณะเดินรู้สึกโคลงเคลงคล้ายเหตุการณ์ยังไม่จบ
อ่อนเพลีย, มึนงง
รู้สึกเสียการทรงตัว
นอนไม่หลับจากความคิดที่ว่าสถานที่นี้อาจยังไม่ปลอดภัย
บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้
อาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหว อาจกินระยะเวลาตั้งแต่หลายชั่วโมงไปจนถึงหลายวันได้ แต่ส่วนมากมักจะดีขึ้นใน 1-3 วัน หรือภายใน 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ผู้ที่เพิ่งประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหวมา
ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการทรงตัว
ผู้ที่เกิดความเครียดและวิตกกังวลง่าย
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหูชั้นใน
แม้ว่าอาการที่เกิดขึ้นจะไม่ได้มีความอันตรายร้ายแรงมาก แต่ถ้าหากมีอาการเหล่านี้ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เช่น
มีประวัติเกี่ยวกับปัญหาที่ระบบประสาทหรือหูชั้นใน
มีอาการเวียนหัวรุนแรงมากจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
อาการไม่ดีขึ้นเลยแม้ผ่านไป 1-2 สัปดาห์แล้ว
มีอาการอื่นร่วม เช่น หูอื้อ, มีเสียงในหู, การได้ยินลดลง, คลื่นไส้อาเจียนไม่หยุด เป็นต้น
รู้สึกหวาดกลัวและวิตกกังวลจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
นอนไม่หลับ, ตื่นกลางดึกบ่อย และนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเก็บไปฝันซ้ำ ๆ
มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการออกไปใช้ชีวิตข้างนอก
เกิดภาพเหตุการณ์ผุดขึ้นมาในหัวบ่อยครั้ง
เกิดอาการร่วม เช่น เหงื่อออก, ใจสั่น หรือหายใจไม่อิ่ม เป็นต้น
ผู้ที่มีประวัติป่วยเป็นโรคจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวล อาจทำให้อาการกำเริบรุนแรงขึ้นได้
หาสถานที่พักผ่อนที่รู้สึกปลอดภัย จะช่วยลดความวิตกกังวลลงได้
เคลื่อนไหวช้า ๆ หลีกเลี่ยงการหันศีรษะหรือการเปลี่ยนท่าทางที่เร็วเกินไป เพื่อลดอาการเวียนหัวลง
พักผ่อนให้เพียงพอ
จัดการกับความเครียด หากิจกรรมผ่อนคลายทำ เช่น การดูหนัง, ฟังเพลง, นั่งสมาธิ หรือพูดคุยกับคนใกล้ตัวเพื่อระบายความกังวล เป็นต้น
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์, คาเฟอีน หรือบุหรี่ เพราะอาจกระตุ้นทำให้อาการเวียนหัวแย่ลงได้
เพราะฉะนั้น อาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหว ไม่ใช่สิ่งที่คุณคิดไปเอง การเข้าใจสาเหตุและอาการของโรคจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับภาวะนี้ได้ แต่หากอาการเหล่านี้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ และดำเนินการรักษาอย่างเหมาะสม
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง