มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon Cancer) เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป โรคนี้มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้ใหญ่หรือลำไส้ตรง จนกลายเป็นติ่งเนื้อ และพัฒนากลายเป็นมะเร็ง หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรก อาจทำให้มีโอกาสรักษาหายสูง
มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon Cancer) คือ การเกิดก้อนเนื้อร้ายในท่อลำไส้ จากติ่งเนื้อเล็ก ๆ จนเกิดการตีบ ทำให้เกิดผลกระทบกับระบบขับถ่าย ซึ่งสังเกตจากอุจจาระที่มีขนาดเล็กลง หรือเหลวมากผิดปกติ อาจมีมูกเลือดปนออกมาด้วย ผู้ป่วยบางรายมีภาวะซีด เพราะเสียเลือดในขณะถ่ายหนักแบบเรื้อรัง แต่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ โรคนี้จัดเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตจากมะเร็งอันดับต้น ๆ ของคนไทย แต่สามารถป้องกันเบื้องต้นได้ด้วยการตรวจคัดกรอง
กรรมพันธุ์ จากการกลายพันธุ์ของยีน ทำให้ไม่สามารถควบคุมการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเนื้อร้าย และถ่ายทอดสู่รุ่นต่อไป
ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
โรคหรือภาวะที่ทำให้ลำไส้เกิดการอักเสบ เช่น ลำไส้อักเสบ และอาจรวมทั้งการเกิดเนื้องอกในบริเวณนั้น
ปัจจัยด้านการรับประทานอาหาร เช่น อาหารที่มีไขมันสูง, กากใย, ไฟเบอร์ต่ำ, เนื้อสัตว์ปิ้ง-ย่าง, เนื้อแดง, ผักและผลไม้ที่ไม่สะอาด เป็นต้น
ดื่มแอลกอฮอล์, สูบบุหรี่, ขาดการออกกำลังกาย หรือผู้ที่นั่งนาน ๆ ไม่ค่อยลุกเดิน
ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น ผู้ป่วยโรคอ้วน, เบาหวาน, มะเร็งเต้านม และเนื้อร้ายทางนรีเวช เป็นต้น
ผู้ที่ได้รับการรักษามะเร็งด้วยวิธีฉายแสงในช่องท้อง
คลำพบก้อนแข็งนูนออกมาบริเวณท้องน้อยด้านขวา
ปวดท้อง
ท้องอืด, ท้องผูก, ท้องเสีย
อุจจาระมีเลือดปน และเลือดมีสีคล้ำมาก
มีความรู้สึกขับถ่ายไม่สุด
เหนื่อยง่าย, อ่อนเพลีย และไม่มีแรง
เบื่ออาหาร, น้ำหนักลดลงผิดปกติ
อุจจาระมีลักษณะผิดปกติ เช่น มีลักษณะเป็นเม็ด หรือยาวเรียวกว่าปกติ เป็นต้น
ผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป
ผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้
ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ
ผู้ที่มีการขับถ่ายผิดปกติ เช่น มีเลือดปนมากับอุจจาระและอุจจาระมีขนาดเล็กแบบผิดปกติ
ผู้ที่มีพฤติกรรมการรับประทานเนื้อแดง, เนื้อสัตว์แปรรูป, อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ, อาหารที่มีไขมันสูง เป็นต้น
ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือไม่ออกกำลังกาย
ขั้นแรกแพทย์จะทำการซักประวัติผู้ป่วยในเรื่องของอาการ และระยะเวลาที่เกิดอาการผิดปกติ รวมทั้งการเจ็บป่วยของบุคคลในครอบครัว หลังจากนั้นจะทำการตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
การตรวจอุจจาระเพื่อหาการปนเปื้อนของเลือด และสิ่งผิดปกติที่ปนออกมา
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ช่วยให้เห็นภาพภายในลำไส้ใหญ่ และสามารถเก็บชิ้นเนื้อบางส่วนไปวิเคราะห์ได้
การเอกซเรย์ตรวจสวนแป้งแบเรียมลำไส้ใหญ่ (Barium Enema)
การใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หาความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ (CT-Colonography)
การตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อยืนยันผลเมื่อพบก้อนหรือติ่งเนื้อ
ประคับประคองอาการของผู้ป่วย
เพื่อบรรเทาความเจ็บ, ปวด และอาการรุนแรงที่อาจจะเพิ่มขึ้น
เคมีบำบัด (Chemotherapy)
เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโต และทำลายเซลล์มะเร็ง
การฉายรังสี (Radiation Therapy)
เหมาะสำหรับผู้ป่วยในระยะแรก ๆ เพื่อลดขนาดของก้อนเนื้อ และกำจัดเซลล์มะเร็งหลังผ่าตัด
การผ่าตัด
ผู้ป่วยในระยะแรกที่ขนาดก้อนเนื้อยังไม่ใหญ่มาก แพทย์จะผ่าตัดโดยการส่องกล้อง
หากมีการลุกลาม หรือขยายตัวของมะเร็ง แพทย์ต้องผ่าตัดออก และเย็บลําไส้ส่วนที่เหลือให้เข้ากัน แต่ถ้าไม่สามารถเย็บได้ จะต้องเอาลำไส้ใหญ่ออกทางหน้าท้องชั่วคราว เพื่อต่อกับถุงสำหรับเก็บกากอาหาร ทั้งนี้ผู้ป่วยบางรายอาจผ่าตัดเปิดหน้าท้องแบบถาวร
ตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ก่อนอายุ 50 ปี
เพิ่มปริมาณการรับประทานผัก, ผลไม้, ธัญพืช และปลาให้มากขึ้น
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที
ผ่อนคลายความเครียดให้ถูกลักษณะ เช่น ดูหนัง, ฟังเพลง และนั่งสมาธิ เป็นต้น
ควบคุมน้ำหนักตัวอย่างถูกวิธี
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการสูบบุหรี่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ พอกับอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย อีกทั้งความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับคนที่อายุน้อย ก็มีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นไม่ควรละเลยต่อสุขภาพ หากพบเนื้อร้ายจากการตรวจคัดกรองโรค สามารถรักษาและเพิ่มโอกาสหายขาดได้สูงมาก ไม่ควรปล่อยไว้ ให้รีบไปปรึกษาแพทย์ ก่อนที่จะได้รับผลกระทบที่ไม่คุ้มค่า
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหารและตับ
โปรแกรมส่องกล้องโรคระบบทางเดินอาหารและลำไส้
ขับถ่ายเป็นเลือด ควรระวังไว้เพราะไม่ใช่แค่ริดสีดวงอย่างเดียว