เครียดลงกระเพาะ
ถ้าเครียดมากเกินไป ระวังเสี่ยงเป็นเครียดลงกระเพาะ

 

เครียดลงกระเพาะ คือ ภาวะความผิดปกติในการทำงานของอวัยวะในระบบย่อยอาหารที่เกิดจากความเครียด รวมทั้งทำให้โรคประจำตัวที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารมีอาการทรุดหนักลง ซึ่งอวัยวะต่าง ๆ ในส่วนนั้นมีเส้นประสาทอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดความเครียด สมองจะสั่งการให้น้ำย่อยหลั่งออกมามากกว่าปกติ และกระเพาะอาหารจะถูกกระตุ้นให้บีบตัวมากยิ่งขึ้น ทำให้ในช่องท้องมีการระคายเคืองจนทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร หรือรุนแรงจนถึงขั้นกระเพาะทะลุได้ 

 

 

สาเหตุที่ก่อให้เกิดภาวะเครียดลงกระเพาะ

 

  • มีกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้น หรือมีการหลั่งกรดในการย่อยอาหารน้อยลง

 

  • หลอดอาหารมีการบิดเกร็งมากขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน

 

  • เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหลอดอาหาร

 

  • การเพิ่มจำนวนของเชื้อแบคทีเรียชนิดไม่ดี

 

  • ลำไส้ใหญ่มีการตอบสนองต่อความเครียด ส่งผลให้การขับถ่ายมีความผิดปกติ

 

  • ลดประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย

 

  • ต่อมไทรอยด์จะมีการเร่งปฏิกิริยาการเผาผลาญอาหารเยอะขึ้น ทำให้เกิดอาการหิว และส่งผลให้นอนไม่หลับ 

 

 

เครียดลงกระเพาะมีอาการอย่างไร?

 

  • ขณะท้องว่างจะปวดท้องบริเวณส่วนบนช่วงลิ้นปี่-กลางอก

 

  • หลังจากรับประทานอาหารจะจุก, แสบ, เสียดแน่นหน้าอก และบริเวณลิ้นปี่

 

  • รับประทานอาหารได้น้อยลง เพราะอิ่มเร็วขึ้น

 

คลื่นไส้

 

  • คลื่นไส้, อาเจียน, ท้องอืด หรือเรอเปรี้ยว

 

  • ในบางรายอาจมีการขับถ่ายออกมาเป็นสีดำ หรือมูกเลือด

 

  • อาการเครียดทั่วไป เช่น มีปัญหาในด้านการนอนหลับ, หงุดหงิด, ใจสั่น หรือหายใจเร็ว เป็นต้น

 

 

กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังภาวะเครียดลงกระเพาะ

 

  • กลุ่มบุคคลอายุประมาณ 18-35 ปี จะมีความเสี่ยงสูง 

 

  • ผู้ที่มีบุคลิกชอบวิตกกังวลกับทุกเรื่อง

 

วัยทำงาน

 

  • ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานและมีความเครียดสะสมสูง

 

 

 

โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะเครียดลงกระเพาะ

 

 

  • ลำไส้อักเสบ

 

  • กระเพาะอาหารอักเสบ, แผลในกระเพาะอาหาร หรือกรดไหลย้อน

 

  • ท้องเสีย, ท้องผูก

 

  • หากรุนแรงอาจเกิดภาวะกระเพาะทะลุ ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

 

เครียดลงกระเพาะมีวิธีวินิจฉัยอย่างไร?

 

แพทย์จะสอบถามประวัติ อาการ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย เพื่อหาสาเหตุของความเครียด และอาจพิจารณาใช้วิธีการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมในกรณีที่สงสัยว่ามีโรคแทรกซ้อน เช่น การส่องกล้องกระเพาะอาหารเพื่อตรวจดูเยื่อบุของกระเพาะอาหารและลำไส้ นอกจากนี้แพทย์อาจให้ผู้ป่วยทำแบบประเมินความเครียด เพื่อประเมินภาวะทางจิตใจของผู้ป่วยเพิ่มเติม

 

 

การดูแลตนเองจากภาวะเครียดลงกระเพาะ

 

วิธีการดูแลตนเองที่ควรปฏิบัติ

 

  • รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ, ตรงเวลา และรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา เป็นต้น

 

  • รับประทานผัก, ผลไม้, นมรสเปรี้ยว และโยเกิร์ต ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะอาหารเหล่านี้ มีจุลินทรีย์ที่ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในร่างกาย ส่งผลให้ระบบทางเดินอาหาร และระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปรึกษาปัญหาจากคนรอบข้าง

 

  • เมื่อมีความเครียด ควรปรึกษาปัญหาจากบุคคลรอบข้างที่ไว้ใจได้ หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เช่น นักจิตวิทยา

 

  • ทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียดอย่างเหมาะสม เช่น ออกกำลังกาย, ฟังเพลง, ฝึกการหายใจ และนั่งสมาธิ

 

  • วางแผนการทำงาน  และจัดสรรเวลาชีวิตให้มีความสมดุลกัน

 

  • พบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษา และทำการวินิจฉัยโรคอื่น ๆ เพิ่มเติม

 

พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

 

  • อาหารรสจัด และอาหารที่มีไขมัน, น้ำตาล หรือโซเดียมในปริมาณสูง

 

  • ความเครียด และการวิตกกังวล

  

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ชา, กาแฟ หรือน้ำอัดลมที่มีคาเฟอีนสูง

 

  • งดสูบบุหรี่

 

 

เครียดลงกระเพาะ สามารถรักษาให้หายได้ เพียงแค่ต้องเข้าใจอาการ และปรับพฤติกรรมตนเอง เช่น การรับประทานอาหาร, การฝึกคลายเครียด หรือหากิจกรรมผ่อนคลายทำ เป็นต้น หากอาการไม่ดีขึ้น ควรเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ และทำการรักษาอย่างตรงจุด



เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

อาการเครียดแบบนี้อยู่ขั้นไหนกันนะ