โรคฉี่หนู
โรคฉี่หนู ภัยร้ายใกล้ตัวที่มาพร้อมกับหน้าฝน

 

โรคฉี่หนู (Leptospirosis) คือ โรคติดเชื้อแบคทีเรียที่มักพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนหรือหลังจากน้ำท่วมขัง โดยมีสัตว์ฟันแทะอย่างหนูเป็นพาหะหลักในการแพร่เชื้อ ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว การเตรียมพร้อมรับมือกับโรคนี้ไม่ใช่เรื่องยาก หากรู้ข้อมูลของโรคนี้มากพอ ขอเชิญทุกท่านล้วงลึกเข้าสู่โลกของโรคฉี่หนูไปพร้อมกัน 

 


โรคฉี่หนูเป็นอย่างไร?

 

เดินบนน้ำท่วมขัง

 

หน้าฝนแบบนี้คงหลีกเลี่ยงการเกิดน้ำท่วมขังจนเกิดดินโคลนไม่ได้ โดยน้ำฝนจะชะล้างเอาเชื้อโรคต่าง ๆ ไหลมารวมกันเป็นแอ่งน้ำ เมื่อเราเดินลุยน้ำที่ท่วมขังอยู่ ร่างกายจะได้รับเชื้อแบคทีเรียเข้าไปเต็ม ๆ โดยเฉพาะโรคฉี่หนู ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ที่เป็นพาหะ เชื้อแบคทีเรียนี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานเป็นเดือน โดยระยะฟักตัวของโรคเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 10 วัน หรืออยู่ในช่วงระยะเวลาประมาณ 4 - 19 วัน 

 

 

สาเหตุของการติดโรคฉี่หนู

 

เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในกลุ่ม “เลปโตสไปรา (Leptospira)” มักพบในปัสสาวะของสัตว์ที่ติดเชื้อ เมื่อปัสสาวะเหล่านี้มีการปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำ ดิน หรือโคลน 

 

ผู้คนที่สัมผัสกับสภาพแวดล้อมเหล่านี้โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน อาจทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ เช่น 

 

  • การรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย

 

  • การดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย 

 

  • การได้รับเชื้อที่บาดแผลผ่านทางผิวหนัง 

 

  • การเดินลุยพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง

 

ทำนา

 

  • การทำนา หรือเก็บเกี่ยวในพื้นที่ชื้นแฉะ

 

 

อาการของโรคฉี่หนู

 

อาการทั่วไป

 

  • ไข้ขึ้นสูงแบบเฉียบพลัน, หนาวสั่น

 

  • ปวดเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อ

 

  • ปวดศีรษะ, ตาแดง

 

  • คลื่นไส้, อาเจียน 

 

  • บางรายอาจมีเลือดออกภายในเยื่อบุตา 

 

อาการแทรกซ้อน

 

 

  • ความดันโลหิตต่ำ

 

  • ตับวายแบบเฉียบพลัน 

 

  • มีเลือดออกภายในปอด

 

  • ในบางรายอาการอาจรุนแรงจนทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และอาจถึงชีวิตได้

 

 

กลุ่มเสี่ยงจากการติดต่อของโรคฉี่หนู

 

  • ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง, อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยที่มีน้ำท่วมขัง, มีการเดินย่ำและลุยน้ำขัง เป็นต้น 

 

  • ผู้ที่ต้องสัมผัสน้ำหรือลุยโคลนเป็นประจำ เช่น เกษตรกร, ชาวนา หรือคนงานบ่อปลา 

 

  • ผู้ประกอบอาชีพขุดลอกท่อระบายน้ำ

 

  • ผู้ที่ชอบเดินป่า, น้ำตก, ทะเลสาบ หรือแม่น้ำตามธรรมชาติ เป็นต้น 

 

  • ผู้ที่ชอบเล่นกีฬาทางน้ำตามธรรมชาติ

 

 

สัตว์ที่เสี่ยงเป็นพาหะของโรคฉี่หนู

 

หนู

 

  • หนู 

 

  • วัว, ควาย

 

  • หมู 

 

  • สุนัขและแมวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย 

 

 

วิธีการรักษาโรคฉี่หนู

 

แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับการรักษาตามอาการ โดยการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาตั้งแต่ระยะแรก ๆ จะได้ผลที่ดี หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงแล้วจึงเข้ามารักษาอาจส่งผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งผู้ป่วยไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะมาใช้เอง หากมีอาการเข้าข่ายควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาตามความเหมาะสม

 

 

การป้องกันโรคฉี่หนู

 

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือแช่น้ำสกปรกเป็นเวลานาน

 

  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในแหล่งน้ำที่สุ่มเสี่ยงการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย

 

สวมรองเท้าบูต

 

  • สวมใส่รองเท้าบูตเมื่อต้องมีการลุยน้ำหรือโคลน 

 

  • สวมใส่ถุงมือขณะทำงานเกษตรหรืองานเก็บเกี่ยว

 

  • อาบน้ำล้างตัวให้สะอาดทันทีหลังสัมผัสกับน้ำสกปรกมา 

 

  • คอยสอดส่องและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์หนูอยู่เสมอ

 

 

โรคฉี่หนู สามารถป้องกันได้หากรู้ถึงรายละเอียดและวิธีป้องกันของโรคแล้ว โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายได้ง่าย การดูแลตนเองอย่างเหมาะสมคือเกราะป้องกันในการหลีกเลี่ยงโรคนี้ได้เป็นอย่างดี



เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

เตรียมสุขภาพต้อนรับหน้าฝน