ปัสสาวะบ่อย
ปัสสาวะบ่อย สัญญาณเตือนโรคที่ไม่ควรมองข้าม

 

ปัสสาวะบ่อย (Frequent Urination) คือภาวะความผิดปกติที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน หากกำลังเดินทางหรือทำงานอยู่ ก็ต้องรีบเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ แม้กระทั่งในตอนกลางคืน การปัสสาวะบ่อยก็ไปรบกวนการนอนหลับ ซึ่งอาจเป็นอันตรายและก่อโรคร้ายในอนาคตได้

 

 

ปัสสาวะบ่อยเป็นอย่างไร

 

ปัสสาวะบ่อยเป็นอย่างไร

 

ปัสสาวะบ่อย คือภาวะที่ร่างกายมีความต้องการปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน ส่งผลให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ต้องเข้าห้องน้ำระหว่างทำงาน ปวดบ่อยระหว่างการเดินทาง หรือแม้แต่ตื่นกลางดึกหลายครั้งจนนอนไม่พอ ซึ่งภาวะนี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่

 

สำหรับปกติทั่วไปแล้วเมื่อรู้สึกอยากขับถ่ายของเหลวแต่ติดภารกิจอยู่ ก็สามารถอั้นได้ แต่ผู้ป่วยภาวะนี้น้ำยังไม่เต็มกระเพาะปัสสาวะแต่เกิดการบีบตัวขึ้น เมื่อปล่อยของเสียจะมีปริมาณน้อยกว่าอาการที่ปวด ทำให้เสี่ยงกลั้นไม่อยู่แล้วปล่อยราดออกมาได้

 

 

ปัสสาวะบ่อยเกิดจากอะไร

 

ดื่มน้ำมากเกินไป 

 

โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนที่ต้องป้องกันภาวะขาดน้ำ บางรายอาจรู้สึกคอแห้งต้องดื่มน้ำเรื่อย ๆ 

 

รับประทานผักและผลไม้ที่มีส่วนผสมของน้ำเยอะ

 

เช่น แตงโม, แคนตาลูป, สาลี่, ชมพู่, แตงกวา หรือมะเขือเทศ เป็นต้น

 

ใช้ยารักษาโรคประจำตัว

 

เช่น ยาขับปัสสาวะหรือยาโรคเบาหวาน

 

การตั้งครรภ์

 

มดลูกของผู้หญิงตั้งครรภ์จะขยายใหญ่จนไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการปัสสาวะบ่อยได้  

 

การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์รวมทั้งคาเฟอีน

 

ทั้งสองชนิดมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเร็ว  

 

 

อาการปัสสาวะบ่อยที่ต้องมาพบแพทย์

 

  • เป็นไข้, หนาวสั่น  

 

  • มีเลือดปนออกมา รวมทั้งสารคัดหลั่งอื่น หรือตกขาว

 

  • ปัสสาวะมีเลือดปน หรือมีสีผิดปกติ (ขุ่น แดง หรือน้ำตาลเข้ม)  

 

  • ปวดขัด แสบขณะปัสสาวะ ปัสสาวะไม่พุ่งขณะปล่อย  

 

  • ปวดท้องน้อยหรือมีก้อนอยู่บริเวณนั้น

 

ปวดหลัง

 

  • ปวดหลัง

 

  • ตื่นมาปัสสาวะมากกว่า 2 ครั้งต่อคืน

 

 

ปัสสาวะบ่อยเสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง

 

เบาหวาน

 

ผู้ป่วยเบาหวานจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ร่างกายจึงขับน้ำตาลออกมาทางปัสสาวะ ส่งผลให้ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย  

 

โรคไต

 

ไม่สามารถดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ปัสสาวะออกมากกว่าปกติ  

 

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 

เป็นเพราะพฤติกรรมการกลั้นปัสสาวะและรักษาความสะอาดไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะ 

 

ต่อมลูกหมากโต

 

ต่อมลูกหมากที่ขยายตัวผิดปกติจะไปกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการปัสสาวะขัดและปัสสาวะบ่อยแต่ครั้งละเล็กน้อย

 

กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive Bladder: OAB) 

 

ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดปัสสาวะทันทีแม้น้ำยังไม่เต็มกระเพาะ และมักกลั้นไม่อยู่ จนมีการเล็ดราดร่วมด้วย  

 

ต่อมไร้ท่อผิดปกติ

 

เช่น เบาจืดกับกลุ่มอาการคุชชิง (Cushing syndromes) 

 

ผลกระทบต่อพื้นที่ ขนาด และขัดขวางการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ

 

การเกิดของเหลวตกค้าง, นิ่ว, เนื้องอก รวมทั้งการฉายรังสีจากอาการอักเสบ

 

 

ปัสสาวะบ่อยมีวิธีการวินิจฉัยอย่างไร

 

ในขั้นแรกแพทย์จะซักประวัติ ถามถึงปริมาณน้ำที่ดื่มต่อวัน ใช้ยาอะไรอยู่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนหรือไม่ หลังจากนั้นจะทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น

 

เก็บปัสสาวะแล้วนำไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการ

 

เพื่อดูแบคทีเรียและเซลล์เม็ดเลือดขาวว่าพบการติดเชื้อหรือไม่

 

อัลตราซาวด์

 

ตรวจหาความผิดปกติ เช่น เนื้องอกหรือนิ่ว

 

ส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ

 

ใช้ในผู้ป่วยที่มีการอักเสบหรือถ่ายเบาบ่อยเรื้อรัง โดยเฉพาะสตรีวัยกลางคนที่ผ่านการคลอดบุตรมานานหลายปี

 

เมื่อทราบสาเหตุ แพทย์จะรักษาตามโรคที่พบ เช่น ให้ยาฆ่าเชื้อในกรณีติดเชื้อ, ปรับยาในผู้ป่วยเบาหวาน หรือแนะนำให้ปรับพฤติกรรมในรายที่ผลการวินิจฉัยไม่ชัดเจน  

 

 

วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีอาการปัสสาวะบ่อย

 

หากพบความผิดปกติ แพทย์จะรักษาตามอาการของโรค หากเป็นการตั้งครรภ์ เมื่อคลอดบุตรแล้วจะหายได้เอง สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคหรือภาวะผิดปกติ อาจให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ได้แก่

 

  • จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนในปริมาณที่เหมาะสม

 

  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำปริมาณมากก่อนเข้านอน

 

  • ออกกำลังกายเสริมสร้างความแข็งแรงในกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน

 

  • หากมีการเล็ดราดของปัสสาวะ ควรสวมใส่ชุดชั้นในหรือแผ่นซึมซับ

 

  • รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ 

 

ตรวจสุขภาพประจำปี

 

 

 

แม้ว่าภาวะปัสสาวะบ่อยจะไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิตแต่อย่างใด แต่ผลกระทบทางจิตใจของผู้ป่วยภาวะนี้ไม่ควรมองข้าม เพราะเขาอาจมีความกังวลในอาการที่ผิดปกติจนรู้สึกไม่อยากออกไปไหน เครียดอยู่กับการต้องหาห้องน้ำคอยขับถ่าย บางรายอาจเป็นโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะในวัยสูงอายุ ดังนั้นลูกหลานควรทำความเข้าใจ และหาทางแก้ไขอย่างถูกวิธี



เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 

 

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

 

โปรแกรมตรวจคัดกรองโรคไต

 

กลั้นปัสสาวะ พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ