เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หรือหน้ามืดบ่อยตอนตั้งครรภ์ อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะโลหิตจางที่พบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์ ถ้าหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ได้
เป็นภาวะที่มีระดับของฮีโมโกลบิน (Hemoglobin, Hb) ต่ำกว่า 11 กรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายจะมีการปรับเปลี่ยน โดยปริมาณเลือดในร่างกายจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 50 แต่พลาสมา (ของเหลวในเลือด) จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะเจือจางในเลือด อย่างไรก็ตามหากระดับของฮีโมโกลบินลดต่ำลงจนกระทบต่อสุขภาพ จะถือว่าเข้าข่ายภาวะโลหิตจางที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

สาเหตุที่พบได้บ่อย คือ การขาดธาตุเหล็กและโฟเลต, โรคธาลัสซีเมีย และการขาดวิตามินบี 12 โดยในช่วงตั้งครรภ์นั้นร่างกายต้องการธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น เพื่อใช้สำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดง หรือการเจริญเติบโตของทารก ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ขาดธาตุเหล็ก เช่น การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอ, มีประวัติการเป็นประจำเดือนมากก่อนตั้งครรภ์, ตั้งครรภ์ถี่และห่างกันน้อยกว่า 1 ปี, ตั้งครรภ์แฝด รวมไปถึงปัญหาสุขภาพของคุณแม่ที่เกี่ยวกับการดูดซึมธาตุเหล็ก เป็นต้น

อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
ปวดศีรษะ หน้ามืด
ใจสั่น
เมื่อรุนแรงขึ้นอาจพบลักษณะของอาการผิวซีด หรือหัวใจวายได้
บางรายอาจไม่มีอาการใด ๆ และจะพบเฉพาะเมื่อตรวจเลือดเท่านั้น
ผลกระทบต่อแม่
เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของแม่ โดยเฉพาะในรายที่มีฮีโมโกลบินน้อยกว่า 7 กรัมต่อเดซิลิตร
เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอด
หัวใจทำงานหนักขึ้น อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว
เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

มีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
ผลกระทบต่อทารก
เพิ่มอัตราการเสียชีวิตของทารกในครรภ์และทารกแรกเกิด
ทารกมีน้ำหนักตัวน้อย หรือโตช้าในครรภ์
คลอดก่อนกำหนด
ส่งผลต่อพัฒนาการสมองและสติปัญญาของทารก
เมื่อตรวจพบภาวะโลหิตจาง แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด พร้อมตรวจด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม เช่น
ตรวจระดับเฟอร์ริติน (Serum ferritin) เพื่อประเมินธาตุเหล็กสะสมในร่างกาย
ตรวจ MCV (Mean Corpuscular Volume) เพื่อดูขนาดของเม็ดเลือดแดง
ตรวจ Iron Study เพื่อประเมินสถานะของธาตุเหล็กในร่างกาย
รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ถั่ว งาดำ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ผักใบเขียว ตับ เครื่องใน เป็นต้น
.jpg)
รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีร่วม เพื่อเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ฝรั่ง เป็นต้น
หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือนมพร้อมกับมื้ออาหาร เพราะจะขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก
หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานยาเสริมธาตุเหล็กเกินขนาดที่แพทย์แนะนำ ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
พักผ่อนให้เพียงพอ
เข้ารับการฝากครรภ์ตามที่แพทย์กำหนด
ภาวะโลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ เป็นปัญหาที่สามารถป้องกันและรักษาได้หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม การฝากครรภ์สม่ำเสมอและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งแม่และลูกขณะตั้งครรภ์ได้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง