ภาวะ DKA ที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระมัดระวัง
ภาวะ DKA ที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระมัดระวัง

ภาวะ DKA (Diabetic Ketoacidosis) คือ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรด เป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนรุนแรงของโรคเบาหวาน เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดสูง ส่งผลให้ร่างกายสร้างคีโตน (Ketones) ออกมาในกระแสเลือดเป็นปริมาณมาก เลือดจึงมีสภาวะเป็นกรด จะเกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เพราะสามารถเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

 

 

สาเหตุการเกิดภาวะ DKA

 

  • เมื่อร่างกายขาดอินซูลิน ทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลในเลือดมาเป็นพลังงานได้ จึงปล่อยฮอร์โมนในการเผาผลาญไขมันมาทดแทนน้ำตาล จึงทำให้เกิดการสร้างกรดคีโตน ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดการสะสมกรดในเลือด สารเคมีในเลือดจึงเสียสมดุล และส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกาย

 

  • นอกจากร่างกายขาดอินซูลินในผู้ป่วยโรคเบาหวานแล้ว การติดเชื้อ เช่น ไข้หวัด ปอดบวม หรือการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ จะมีการสร้างฮอร์โมนต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น อะดรีนาลีน หรือคอร์ติซอล ฮอร์โมนเหล่านี้อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะ DKA ได้

 

  • ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงตีบเฉียบพลัน ที่ขาดสารอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่ม SGLT-2 inhibitor จะมีปัจจัยเสี่ยงให้เกิดภาวะ DKA ได้

 

 

อาการของภาวะ DKA

      

  • ปากแห้ง กระหายน้ำ

      

  • ปัสสาวะบ่อย

         

  • ปวดท้อง

           

  • คลื่นไส้ อาเจียน

           

  • อ่อนเพลีย

           

  • หายใจลำบาก

      

  • ลมหายใจมีกลิ่นผลไม้

      

  • ค่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 250 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

 

 

การรักษาภาวะ DKA

 

  • การให้น้ำทดแทนหากผู้ป่วยมีอาการขาดน้ำจากการปัสสาวะบ่อย ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยแพทย์อาจจะให้ผ่านหลอดเลือดดำ

 

  • การให้เกลือแร่ทดแทน (Electrolyte Replacement) เช่น โซเดียม โพแทสเซียม และคลอไรด์ เนื่องจากการขาดอินซูลิน แพทย์อาจให้เกลือแร่ทดแทนผ่านการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้กล้ามเนื้อ เส้นประสาท และหัวใจ ทำงานได้ตามปกติ

 

  • การรักษาด้วยการให้อินซูลิน แพทย์อาจให้อินซูลินผ่านทางหลอดเลือดดำ จนกว่าค่าระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วย ต่ำกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และเลือดไม่มีความเป็นกรด

 

  • ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะ DKA จากการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์อาจจะสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะ เพื่อรักษาอาการของผู้ป่วย

 

 

Diabetic Ketoacidosis

 

 

การป้องกันภาวะ DKA 

 

  • รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย โดยเฉพาะประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ขนมปัง และซุปข้น เป็นต้น

 

  • ดื่มน้ำมากขึ้น อย่างน้อย 1 แก้ว ทุก 1 ชั่วโมง

 

  • รับประทานยารักษาโรคเบาหวาน ตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และอย่าหยุดฉีดอินซูลิน

 

  • ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และจดบันทึกอย่างสม่ำเสมอ

 

  • ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับปริมาณอินซูลินตามสภาวะของร่างกาย รวมทั้งแจ้งรายการยาทุกตัวที่ใช้อยู่ อาหารเสริม และวิตามินต่างๆเพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

 

 

พฤติกรรมบางอย่างเช่น การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ การใช้สารเสพติด โดยเฉพาะโคเคน เป็นเสี่ยงที่กระตุ้นทำให้เกิดภาวะ DKA ได้ รวมทั้งการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ และยาขับปัสสาวะ หากผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีอาการ แน่นหน้าอก ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง ควรพบแพทย์โดยด่วน



เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

โปรแกรมตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน