กินเจอย่างไรให้สุขภาพดี
กินเจอย่างไรให้สุขภาพดี

กินเจ คือการงดรับประทานอาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์, ไข่, นม หรือผักที่มีกลิ่นฉุนต่างๆ ในทุกๆ ปีจะมีเทศกาลถือศีลกินเจ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณของชาวไทยเชื้อสายจีน โดยมีความเชื่อว่าเป็นการรักษาสุขภาพที่ดี พร้อมทั้งชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วอาหารเจในยุคปัจจุบัน มีการผลิตวัตถุดิบอาหารแปรรูปที่เลียนแบบรสชาติ กลิ่นของเนื้อสัตว์ ที่มีส่วนผสมของสารกันบูด และสารเคมีอื่นๆ ได้  อีกทั้งการไม่รับประทานเนื้อสัตว์, ไข่, นม อาจทำให้ร่างกายขาดโปรตีนได้

 

 

การกินเจที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ

 

  • เลือกรับประทานผัก ผลไม้สดที่หลากหลายสีสัน และก่อนรับประทาน หรือนำไปทำอาหาร ควรล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันสารพิษตกค้าง

 

  • รับประทานอาหารประเภทโปรตีนจากวัตถุดิบอาหาร เช่น นมถั่วเหลือง, ถั่ว, งา, เต้าหู้ และโปรตีนเกษตร

 

  • เลือกรับประทานธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง, ขนมปังโฮลวีท

 

  • ดื่มชา และกาแฟอย่างพอดี และไม่ควรเพิ่มความหวานลงไป

 

  • รับประทานอาหารประเภทแป้ง, ไขมัน, ของทอด, อาหารรสชาติหวาน และเค็มอย่างพอดี ควรเลือกรับประทานอาหารประเภทต้ม, นึ่ง, ตุ๋น, ยำ, ลวก เพื่อลดปริมาณไขมัน และน้ำตาลในร่างกาย

 

  • หลีกเลี่ยงอาหารประเภทหมักดอง เพราะในอาหารเหล่านี้จะมีโซเดียมสูง ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหากรับประทานในปริมาณมาก

 

  • หลีกเลี่ยงอาหารจัด เพราะจะส่งผลกระทบต่ออวัยวะในระบบย่อยอาหารได้ เช่น รับประทานอาหารรสเผ็ดจัด จะทำให้กระเพาะได้รับการระคายเคือง ส่งผลให้มีอาการปวดท้อง

 

  • เลือกรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานน้อย เช่น แตงโม, ชมพู่ และฝรั่ง ควรลดผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน, มะม่วงสุก, เงาะ และน้อยหน่า เป็นต้น

 

  • ดื่มน้ำให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย

 

 

ประโยชน์ของการกินเจ

 

ทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น

 

  • การกินเจจากอาหารประเภทผัก และผลไม้ จะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ รวมทั้งกากใยอาหารต่างๆ ที่ช่วยให้อวัยวะที่ทำการย่อยอาหาร และการขับถ่ายทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น ท้องผูก, โรคริดสีดวงทวารหนัก และโรคมะเร็งลำไส้ เป็นต้น

 

ลดการได้รับสารปนเปื้อนจากเนื้อสัตว์

 

  • เช่น สารบอแรกซ์ มักจะอยู่ในลูกชิ้นปลา, เนื้อวัว, เนื้อหมู ซึ่งเป็นสารก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ฟอร์มาลิน มักจะอยู่ในเนื้อสัตว์ทะเล เช่น หอย, กุ้ง, หมึก และปู ซึ่งสารนี้จะเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร

 

ผิวพรรณเปล่งปลั่ง หน้าตาสดใสขึ้น

 

  • การรับประทานผัก ผลไม้ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ มีส่วนช่วยในการดูแลผิวพรรณให้สดใส ลดการหย่อนคล้อยของผิวหนัง

 

 

ผักที่ห้ามรับประทานในเทศกาลกินเจ

 

ผักเหล่านี้จะมีกลิ่นฉุน มีรสชาติจัดจ้าน ทางการแพทย์แผนจีนเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อพลังธาตุ และอวัยวะภายในของร่างกาย ได้แก่

 

กระเทียม

 

  • มีส่วนให้การทำงานของหัวใจ, ตา, ระบบหมุนเวียนโลหิตผิดปกติ และผลกระทบต่อพลังธาตุไฟ

 

หอมหัวใหญ่ ต้นหอม

 

  • มีส่วนให้การทำงานของไต, หู, ระบบภูมิคุ้มกัน, ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ และผลกระทบต่อพลังธาตุน้ำ

 

กุยช่าย

 

  • มีส่วนให้การทำงานของม้าม, ถุงน้ำดี, เส้นเอ็น, เส้นประสาทผิดปกติ และผลกระทบต่อพลังธาตุไม้

 

หลักเกียว

 

  • มีส่วนให้การทำงานของตับ, กล้ามเนื้อ, กระเพาะผิดปกติ และผลกระทบต่อพลังธาตุดิน

 

ใบยาสูบ

 

  • มีส่วนให้การทำงานของฟัน, กระดูก, ปอดผิดปกติ และผลกระทบต่อพลังธาตุโลหะ

 

 

กินเจ

 

 

สารพิษในผัก ผลไม้ ที่ผู้กินเจควรระมัดระวัง

 

กรดซาลิซิลิค

 

  • มักจะอยู่ในผักดอง ผลไม้ดองเพื่อป้องกันเชื้อรา เช่น ผักกาดดอง, ขิงดอง, มะม่วงดอง สารพิษนี้จะทำลายเซลล์ในร่างกาย เกิดอาการคลื่นไส้, อาเจียน, ผื่นขึ้นตามร่างกาย และความดันต่ำ เป็นต้น

 

โซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ หรือสารฟอกขาว

 

  • มักจะอยู่ในผัก แป้ง และเส้นก๋วยเตี๋ยว เช่น ถั่วงอก, เห็ด, หน่อไม้ และดอกไม้จีน เป็นต้น เมื่อร่างกายสะสมสารพิษนี้เข้าไปบ่อยๆ จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้, อาเจียน, ปวดท้อง, ท้องเสียอย่างรุนแรง, หายใจลำบาก และปวดศีรษะ เป็นต้น

 

ยาฆ่าแมลง

 

  • มักจะอยู่ในผัก ผลไม้สด สารพิษนี้เป็นพิษต่อระบบประสาท จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้, อาเจียน, วิงเวียนศีรษะ และทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงได้

 

 

เทศกาลกินเจตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน หรือตรงกับเดือน 11 หรือเดือนของไทย เป็นประเพณีของจีนโบราณมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น นอกจากการไม่รับประทานเนื้อสัตว์แล้ว การทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่โกรธ ไม่หงุดหงิด พูดหยาบว่าร้ายใคร ก็จะทำให้สุขภาพกาย และสุขภาพจิตใจนั้นดีขึ้นอีกด้วย