หูด
หูด โรคผิวหนังจากไวรัส HPV ที่ติดต่อได้

 

หูด คือ โรคผิวหนังที่มีการหนาตัวขึ้นจากการกระตุ้นเซลล์ผิวหนังโดยเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) หูดสามารถเกิดได้กับผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย มีหลายชนิดและหลายขนาด รูปร่างของหูดจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสและบริเวณผิวหนังที่เกิดโรค 

 

 

หูดสามารถติดต่อได้อย่างไร ? 

 

หูดเป็นโรคติดต่อที่สามารถแพร่กระจายได้หลายช่องทาง เช่น 

 

  • การสัมผัสกับผิวหนังที่เป็นหูด

 

  • จับสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสปะปนอยู่

 

  • มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นหูด

 

  • แกะหรือเกาบริเวณหูด แล้วสัมผัสบริเวณอื่นของร่างกาย ทำให้เกิดการแพร่กระจาย

 

  • ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วยที่เป็นหูด

 

  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

 

มีแผล

 

  • ผิวหนังมีบาดแผลหรือรอยถลอก 

 

 

หูดมีกี่ชนิด

 

หูดสามารถแบ่งออกได้เป็นชนิดต่าง ๆ ดังนี้

 

  • หูดธรรมดา (Common Warts)

 

  • หูดชนิดแบนราบ (Plane Warts, Flat Warts) ลักษณะเป็นตุ่มแบน ผิวเรียบ ลักษณะสีคล้ายผิวหนัง

 

หูดฝ่าเท้า

 

  • หูดที่ฝ่ามือฝ่าเท้า (Plamar Warts and Plantar Warts)

 

 

  • หูดติ่งเนื้อ (Filiform Wart )

 

 

อาการของโรคหูดที่ควรสังเกต

 

อาการของโรคหูดสามารถแบ่งออกได้ตามชนิดของโรค

 

หูดธรรมดา (Common Warts)

      

  • มีลักษณะเป็นตุ่มแข็ง ผิวขรุขระ มักจะเกิดหูดที่บริเวณใบหน้า ข้อศอก นิ้วมือ นิ้วเท้า และหัวเข่า สามารถเกิดขึ้นได้เพียง 1 ตุ่ม หรือหลายตุ่มในบริเวณเดียว อาจมีลักษณะเป็นจุดสีดำภายในตุ่ม

 

หูดชนิดแบนราบ (Plane Warts, Flat Warts)

 

  • ลักษณะเป็นตุ่มแบน ผิวเรียบ สีคล้ายผิวหนัง ขนาดเล็ก มักจะเกิดหูดที่บริเวณใบหน้า คอ แขน และหลังมือ 

 

หูดที่ฝ่ามือฝ่าเท้า (Plamar Warts and Plantar Warts)

 

  • มีลักษณะเป็นปื้นหนาแข็ง ผิวขรุขระ คล้ายตาปลา เมื่อยืนหรือเดิน จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บ อาจมีลักษณะเป็นจุดสีดำภายในตุ่ม 

 

หูดที่อวัยวะเพศ (Condyloma Accuminata)

      

  • ลักษณะเป็นตุ่มนูน สีชมพู หรือสีเนื้อ ผิวขรุขระ แรกเริ่มเมื่อติดเชื้อจะแสดงออกเป็นรอยโรคเพียงเล็กน้อย และจะลุกลามขยายใหญ่จนมีลักษณะคล้ายหงอนไก่ หรือดอกกะหล่ำ มักพบที่บริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก และขาหนีบ มีอาการคัน บางครั้งอาจส่งกลิ่น

 

หูดติ่งเนื้อ (Filiform Wart)

      

  • ลักษณะเป็นตุ่มขรุขระ เป็นติ่งยื่นจากผิวหนัง แต่ไม่แข็งมากเหมือนกับหูดชนิดอื่น ๆ มักพบบริเวณใบหน้า และลำคอ 

 

อาการที่ควรรีบเข้าพบแพทย์ 

 

  • หูดขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีการเพิ่มจำนวนขึ้น

 

  • มีเลือดออกจากหูด

 

  • หูดเปลี่ยนสี รูปร่าง หรือมีอาการผิดปกติ

 

  • เกิดหูดที่บริเวณใบหน้า อวัยวะเพศ หรือบริเวณที่เป็นจุดอับ

 

  • มีอาการปวด บวม แดง มีหนอง 

 

  • หูดกลับมาเป็นซ้ำบ่อยครั้ง 

 

 

การรักษาโรคหูด

 

โดยปกติทั่วไปแล้ว โรคหูดมักจะสามารถหายเองได้ แต่สำหรับผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันร่างกายไม่แข็งแรงจะต้องทำการรักษา ได้แก่

      

  • การใช้ยา ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิซิลิก กรดแลคติก กรดไตรคลออะซิติก ใช้เวลาในการรักษาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เพราะยาบางชนิดอาจทำให้ระคายเคืองผิวหนัง 

      

  • การใช้ความเย็นจากไนโตรเจนเหลว ขณะทำการจี้หูดจะมีอาการเจ็บ แสบ เพียงเล็กน้อย และมีแผลเป็นตุ่มน้ำ จะค่อย ๆ ยุบ แห้ง ตกสะเก็ด อาจต้องจี้หลาย ๆ ครั้ง เพื่อให้หายขาด 

 

  • การจี้หูดด้วยไฟฟ้า โดยใช้ความร้อนรักษาหูดสามารถหายขาดได้ จากการจี้เพียงไม่กี่ครั้ง หรือครั้งเดียว แต่อาจจะเป็นแผลเป็นหลังการรักษา เหมาะสำหรับหูดที่มีขนาดใหญ่  

      

  • การจี้หูดด้วยเลเซอร์ มีราคาที่สูงกว่าการรักษาแบบอื่น ๆ จะเป็นการใช้แสงเลเซอร์ทำลายหลอดเลือดที่หูด หรือทำลายเนื้อเยื่อของหูดโดยตรง 

      

  • การผ่าตัด เป็นการเอาก้อนหูดออกทั้งหมด 

      

  • การใช้ยากระตุ้นภูมิ (DCP) สำหรับผู้ป่วยที่มีก้อนหูดเป็นจำนวนมาก ใช้เวลารักษามานาน และไม่หายขาด 

 

 

การป้องกันโรคหูด

      

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

      

  • ออกกำลังกายเป็นประจำ

 

  • นอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ

 

ถุงยางอนามัย

 

      

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนที่เป็นหูด และการใช้สิ่งของร่วมกัน

      

  • หลีกเลี่ยงการใช้สระว่ายน้ำสาธารณะ

      

  • หลีกเลี่ยงการใช้บริการร้านทำเล็บที่ไม่สะอาด

      

 

นอกจากนี้ในการใช้สมุนไพรเพื่อการรักษา และการป้องกันโรคหูดได้ เช่น โหระพา กระเทียม และน้ำมันละหุ่ง โดยเฉพาะใบโหระพาที่มีสารในการป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้ 

 

 

ทั้งนี้หากมีอาการของโรคหูด ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที เพราะสามารถติดต่อแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้ หรือหูดบางชนิด สามารถกลายเป็นมะเร็งได้เช่นกัน การรักษาที่เหมาะสมและการดูแลสุขภาพที่ดีจะช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ



เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

โปรแกรมตรวจโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

 

วัคซีน HPV ผู้ชายฉีดได้หรือไม่ ?

 

คันอวัยวะเพศ สัญญาณของโรคอะไรบ้าง

 

หูดหงอนไก่ โรคทางเพศสัมพันธ์ที่มาพร้อมกับเชื้อ HPV