ณ ปัจจุบัน ในยุคที่หลายคนมักใช้เวลาอยู่กับหน้าจอทั้งวัน จนบางทีถูกเรียกว่า “สังคมก้มหน้า” เพราะไม่ว่าจะเป็นตอนเรียน ทำงาน หรือก่อนนอน โลกโซเชียลกลายเป็นสิ่งที่เราอยู่กับมันแทบจะตลอดเวลา แต่บางทีมันก็เป็นสิ่งที่คอยดึงความสนใจและพลังงานจากเราไปโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการตามข่าวดราม่า, การเมือง, วิถีชีวิตผู้คน ฉะนั้น “Social Detox” จึงเป็นแนวคิดที่ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะกับวัยเรียนและวัยทำงานที่ต้องเผชิญกับข้อมูลจำนวนมากในแต่ละวัน บทความนี้จะพาไปดูว่า Social Detox คืออะไร แล้วทำไมเราถึงควรพักใจจากโลกโซเชียลบ้าง

Social Detox คือการตั้งใจพักหรือการพยายามลด ละ เลิกโซเชียลมีเดียชั่วคราว เพื่อให้สมองและจิตใจที่ถูกบั่นทอนได้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่ทั้งนี้การทำ Social Detox ก็ไม่ใช่การเลิกใช้โซเชียลทั้งหมด แต่เป็นเพียงการปรับพฤติกรรมการใช้งานให้เหมาะสมมากขึ้น เช่น การปิดแจ้งเตือนก่อนนอน, การกำหนดเวลาใช้งาน หรือเว้นพักการใช้งานเป็นช่วง ๆ เป็นต้น เพราะการเปิดรับข้อมูลในแต่ละวันมากไป โดยเฉพาะข่าวสารที่คอยกระตุ้นอารมณ์ จะยิ่งทำให้เกิดความเครียดและนอนไม่หลับโดยไม่รู้ตัวได้
ความเครียดและวิตกกังวลมากขึ้น: จากข่าวสารและคอนเทนต์ที่คอยกระตุ้นอารมณ์ของเรา
การเปรียบเทียบตัวเองกับบุคคลอื่นบนโลกโซเชียล: เมื่อเราเห็นภาพชีวิตที่สมบูรณ์แบบของบุคคลอื่น อาจเกิดการเปรียบเทียบตัวเองกับบุคคลนั้นจนเกิดภาวะเครียดและรู้สึกด้อยค่าตัวเองได้
นอนหลับยากและไม่สนิท: จากการเล่นมือถือก่อนนอนหรือเสียงแจ้งเตือนที่ดังตลอดคืน
วัยเรียนหรือวัยทำงาน: อาจพบเจอปัญหาจากโซเชียลที่ส่งผลให้สมาธิในการเรียนหรือทำงานลดลง
อาการทางกายจากการจ้องจอบ่อย เช่น ปวดตา ปวดคอ ปวดหลัง หรือเกิดความล้าทางจิตใจสะสม เป็นต้น
การบริโภคข่าวสารที่มากเกินไป: อาจทำให้เกิดภาวะเครียดเรื้อรังโดยไม่รู้ตัวได้
ใช้มือถือเกิน 5-6 ชั่วโมงต่อวัน (ไม่นับการใช้เพื่อทำงาน)

ต้องเช็กโซเชียลทันทีเมื่อตื่นนอน
อาจมีภาวะทางอารมณ์ขึ้นลงจากยอดไลก์หรือคอมเมนต์ที่คาดหวัง
เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจนรู้สึกด้อยค่า
เล่นมือถือก่อนนอนจนนอนไม่หลับหรือนอนดึก
ไม่มีสมาธิในการทำงานหรือเรียน
รู้สึกเหงา เครียด หรือวิตกกังวลเมื่อไม่มีมือถืออยู่ใกล้ตัว
ทำให้สมาธิดีขึ้น ส่งผลให้การเรียนหรือการทำงานมีประสิทธิภาพ
ลดความเครียดและวิตกกังวลจากสิ่งกระตุ้นในโซเชียล
ประสิทธิภาพการนอนดีขึ้น เพราะไม่มีแสงหน้าจอมารบกวนก่อนนอน
การปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างดีขึ้น
มีเวลาทำกิจกรรมอื่น เช่น อ่านหนังสือ, ออกกำลังกาย หรือการใช้เวลากับครอบครัว เป็นต้น
ลดอาการอ่อนล้าทางกายจากการจ้องหน้าจอทั้งวัน
เกิดอาการซึมเศร้า
นอนไม่หลับหลายวันติดต่อกัน
วิตกกังวลเมื่อหยุดใช้โซเชียล
อารมณ์ขึ้นลงผิดปกติจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
หากเกิดอาการเหล่านี้ขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อทำการประเมินอาการและรักษาอย่างเหมาะสม
ระยะเวลาที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับระดับการใช้งานของแต่ละบุคคล
24 ชั่วโมง: ช่วยลดสิ่งกระตุ้นจากโลกโซเชียลลง และสามารถผ่อนคลายตัวเองได้ในระดับหนึ่ง

3 วัน: เริ่มเห็นผล เช่น สมาธิดีขึ้นและเริ่มชินกับพฤติกรรมที่ไม่หยิบมือถือขึ้นมาเล่นบ่อย
7-14 วัน: ความสมดุลทางด้านอามณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2-4 สัปดาห์: สำหรับผู้ที่ใช้งานมือถือหนักจนกระทบชีวิตประจำวัน
การทำ Social Detox ไม่จำเป็นต้องหายไปจากทุกช่องทาง อาจปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การลดเวลา, การใช้โซเชียลอย่างมีสติ หรืองดเล่นมือถือก่อนนอน เป็นต้น ทั้งนี้ควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาถึงระยะเวลาที่เหมาะสมในการทำ Social Detox ร่วมด้วย
กำหนดเวลาใช้งานให้ชัดเจน เช่น ก่อนเข้านอนจะไม่หยิบมือถือมาเล่น เป็นต้น
กำหนดเซฟโซนหรือพื้นที่ปลอดมือถือ เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ โต๊ะอาหาร
.jpg)
หากิจกรรมอย่างอื่นทำ เช่น ออกกำลังกาย, ทำสวน, ท่องเที่ยว
วางมือถือให้ไกลตัวในช่วงเวลาทำงานหรืออ่านหนังสือ
สังเกตอารมณ์ของตัวเองตอนใช้และตอนพักจากโซเชียลมีเดีย เพื่อประเมินอาการเบื้องต้น
ใช้โซเชียลอย่างมีสติ เลือกเสพสื่อที่มีประโยชน์กับตัวเอง
สรุปแล้วการทำ Social Detox คือการปล่อยให้ตัวเองได้ฟื้นฟูสุขภาพจิตและปรับชีวิตประจำวันให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องเลิกใช้โซเชียลไปตลอด แต่เป็นการปรับเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและมีสติในการเสพสื่อมากขึ้น
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง